เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้(21) ซื้อขายผันผวนก่อนปิดบวกเล็กน้อย เช่นเดียวกับทองคำ เหตุตลาดปรับฐานหลังดิ่งลงหนักจากปัจจัยเฟดขีดเส้นม้วนเสื่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามปัจจัยเหล่านี้ยังเขย่าประสาทนักลงทุนไม่จางหายและเป็นผลให้ราคาน้ำมันปิดลบแรงอีกวัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 41.08 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,799.40 จุด แนสแดก ลดลง 7.39 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,357.25 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.24 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,592.43 จุด
"นักลงทุนจำนวนมากคิดว่าแรงเทขายน่าจะหมดไปแล้ว หลังจากร่วงสู่ระดับทางเทคนิค แต่ปัจจัยต่างๆที่ผลักให้ตลาดดิ่งลงก็ยังไม่จางหายไป" นิโคลัส โคลาส หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของคอนเวิร์กเอ็กซ์กรุ๊ปในนิวยอร์กระบุ "ผู้คนไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับนโยบายเฟดหรืออัตราดอกเบี้ย รวมถึงอื่นๆด้วย มันยังเร็วๆเกินไปที่จะบอกว่าเราเตะระดับต่ำสุดแล้ว"
ด้านราคาทองคำวานนี้(21) ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย หลังร่วงแตะระดับต่ำที่สุดรอบ 3 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี(20) อย่างไรก็ตามโลหะมีค่าเหลืองชนิดนี้ ก็ยังทำสถิติทรุดลงรายสัปดาห์หนักหน่วงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีอยู่ดี ตามหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ส่งสัญญาณยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับสัญญาณการเติบโตแบบชะลอตัวของจีน ฉุดให้ราคาน้ำมันวานนี้(21) ขยับลงแรง 2 วันติดต่อกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จากการปรับลงหนักอีกรอบในวันศุกร์(21) ส่งผลให้ 2 วันที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบตลอดนิวยอร์ก ร่วงลงรวมกว่า 4.50 ดอลลาร์เลยทีเดียว
