หุ้นมะกันดิ่งหนักวิตกแบงก์ชาติชะลอกระตุ้น ศก.น้ำมัน-ทองคำขึ้นน้อย

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (12) ขยับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางรายงานสต๊อกเชื้อเพลิงอันผสมผสานของสหรัฐฯ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยปัจจัยหลังนี้ผลักให้ทองคำฟื้นตัวแรง ขณะที่วอลล์สตรีทดิ่งหนัก หลังนักลงทุนกังวลธนาคารกลางชาติต่างๆ อาจเหนี่ยวรั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 50 เซ็นต์ ปิดที่ 95.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์ ปิดที่ 103.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล ส่วนเบนซิน ก็เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล ผิดกับสต๊อกน้ำมันกลั่น อันประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ที่ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล

นักวิเคราะห์มองว่านอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว ราคาน้ำมันนิวยอร์กยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระบบตะกร้าเงิน และปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ราคาทองคำวานนี้(12) ปิดบวกพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,392.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (12) ดิ่งลงแรง หลังจากแกว่งตัวในแดนบวกช่วงต้นของการซื้อขาย เหตุนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของเหล่าธนาคารกลางประเทศต่างๆ

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลดลง 127.25 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,994.77 จุด แนสแดค ลดลง 36.52 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,400.43 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.59 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,612.54 จุด

แพทริก โอแฮร์ จาก Briefing.com. ระบุว่า “ความเคลื่อนไหวของตลาดขาดความต่อเนื่อง และต้นตอของความไม่แน่นอนนี้ต้องกล่าวโทษไปที่ธนาคารกลางสหรัฐฯและธนาคารกลางชาติอื่นๆ ที่ยังมีท่าทีอึมครึม ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนคาดคะเนไปต่างๆ นานาว่าอะไรจะเกิดขึ้น”