เอเจนซีส์/ผู้จัดการออนไลน์ - เป็นข่าวไปทั่วโลกเมื่อ 2 เจ้าของร้าน “เอมี เบกกิ้ง คอมปานี” ที่แอริโซนาซึ่งออกในรายการทีวี“คิทเช่นไนท์แมร์” ตอนล่าสุดถูกรุมจวกจากชาวเนต และเป็นข่าวทางทีวี หลังจากกอร์ดอน แรมซีย์ แห่ง“คิทเช่นไนท์แมร์” ได้แฉให้เห็นถึงพฤติกรรมอันเลวร้ายของทั้งคู่ ล่าสุดถึงขั้นปิดร้านหนี รายงานจากเมลออนไลน์
มิชลิน 14 ดาว กอร์ดอน แรมซีย์ เชฟชาวอังกฤษระดับโลกและนักวิจารณ์อาหารปากร้าย ที่มีรายการทีวีโชว์ของเขาเอง หนึ่งในนั้นคือ “คิทเช่นไนท์แมร์” ที่ปัจจุบันนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 6ในการออกอากาศแล้ว จากตอนที่ 16 ที่เป็นตอนล่าสุดซึ่งได้ถูกออกอากาศทางช่องฟ็อกส์ของอเมริกาในวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ 2 สามีภรรยาอารมณ์ร้ายเจ้าของร้าน “เอมี เบกกิ้ง คอมปานี” ถึงขั้นต้องโกรธออกควันหูอีกครั้ง เมื่อถูกเสียงรุมประนามจากทั่วทั้งอินเตอร์เนต อีกทั้งยังมีผู้คนมากมายบินมาไกล อาทิเช่น แคนาดา เพื่อมาดูหน้าของคนทั้งคู่ที่แอริโซนา แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งเอมีและแซมมี บัวซาก์โล ซึ่งตอนแรกตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและกริยาอาการ จนในที่สุดต้องยอมปิดร้านชั่วคราวตาม รายงานจากAFSFamily.com
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ ผู้ซึ่งโหด ปากร้าย และขี้วีน อันเป็นเอกลักษณ์ในการดำเนินรายการ “คิทเช่นไนท์แมร์” ของเขาต้องยอมจำนนเพราะไม่สามารถที่จะดำเนินรายการต่อเพื่อช่วยปรับปรุงให้ร้านอาหารที่ใกล้เจ๊งให้กลับมาเปิดบริการต่อได้ เพราะเจ้าของร้านทั้ง 2 ต่างปฎิเสธที่จะให้ความร่วมมือ
จากตอนล่าสุดที่ชื่อว่า “เอมี เบกกิ้ง คอมปานี” หรือ Amy's baking company แสดงให้เห็นข้อผิดพลาดหลายประการของร้าน อาทิเช่น การที่ลูกค้าที่จองโต๊ะไว้ตั้งแต่ 18.30 น.จนกระทั่ง21.45 น. ก็ยังไม่ได้พิซซ่าที่สั่งไว้ เพราะเชฟเอมีผู้เป็นเจ้าของร้านทำช้ามาก หรือลูกค้าคนอื่นเล่าว่า ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ จะได้ยินเสียงวิ่งพล่านไปทั่วของแซมมีสามี และเสียงตะโกนดังโหวกเหวกมาจากครัวของเอมีภรรยาตลอดเวลา และที่เด็ดไปกว่านั้นแซมมีสามีที่เป็นทั้งผู้จัดการในร้านได้ด่าทอลูกค้าคนหนึ่ง เพราะเขาอ้างว่ารอออร์เดอร์ที่สั่งหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่ได้ เอมีโกรธจัดและขู่เพื่อจะเรียกตำรวจเพราะพบว่าลูกค้าที่รอนานหลายชั่วโมงจะเดินออกจากร้านไปโดยที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน
เชฟแรมซีย์ผู้ที่ทำเงินนับล้านดอลลาร์จากธุรกิจร้านอาหารของเขาทั่วโลก ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า 2 สามีภรรยาคู่นี้ “ผิดแปลก” ไปจากเจ้าของกิจการร้านอาหารอื่นๆที่เขาพบมาทั้งหมด ตั้งแต่การที่พนักงานเสิร์ฟหญิงในร้านเผยว่า แซมมีไม่อนุญาตให้ใครจับเงินหรือคีย์ข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งออร์เดอร์ ที่ตัวผู้จัดการร้านมักทำพลาดประจำ หรือที่ต้องทำให้แรมซีย์ประกาศความจริงที่น่าเกลียดกับลูกค้าในร้านที่นั่งทานอยู่ขณะนั้นว่า เงินทิปที่พวกเขาจ่ายไปนั้นล้วนตกไปอยู่ในกระเป๋าของแซมมีเจ้าของร้าน ในขณะที่เชฟเอมีที่อยู่ในครัวไม่ยอมฟังเสียงวิจารณ์ของลูกค้าที่บ่นเรื่องความไม่เอาไหนของรสชาติทั้งทางออนไลน์และที่ร้าน โดยทั้งเธอและสามีต่างตอบโต้ด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยวพอกัน พวกเขาต่างอ้างว่านี่เป็น “ไซเบอร์บูลลี” หรือการโดนกลั่นแกล้งทางเนต การที่แรมซีย์มาเพื่อพวกเขาหวังจะให้พวกที่ด่าร้านของพวกเขาได้ตาสว่างเสียที อย่างไรก็ตามเหตุที่ทำให้แรมซีส์โกรธจัด เพราะเอมีที่หงุดหงิดอยู่ในครัวได้ไล่พนักงานเสิร์ฟหญิงออกด้วยเหตุเพราะเธอถามว่า “แน่ใจแล้วหรือ” และหลังจากสัมภาษณ์พนักงานร้านเก่าๆ ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า เจ้าของร้านคู่นี้ได้เลิกจ้างพนักงานนับร้อยรายภายใน 1ปี และเหตุที่รายการต้องหยุดลงกลางคัน เพราะแรมซีย์ไม่สามารถทำให้เอมีภรรยาเจ้าของร้านฟังในสิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดของเธอและต้องการปรับปรุง ในขณะที่สามีของเธอก็กลัวเกินกว่าที่จะบอกตรงไปตรงมากับภรรยา
หลังจาก“คิทเช่นไนท์แมร์” ตอนล่าสุดได้แพร่ภาพออกอากาศไปแล้ว มีเสียงตอบรับกันหนาหูจากบรรดาแฟนๆที่ต่างพากันถล่มเฟสบุ๊กของทางร้านด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย รวมทั้งมีข้อความที่ประนามทั้งคู่ต่างๆนานา หาว่าไม่เป็นมืออาชีพ หยาบคาย หรือเรียกเธอว่า นังโรคจิต เช่น “โชคดีที่คนทั้งคู่มีแค่แมว 3 ตัว ไม่มีทายาท” แต่ในขณะที่อีกคนแย้งว่า “เป็นความโชคร้ายของแมว 3 ตัวนั้นที่ต้องติดกับผู้หญิงโรคจิตอย่างเอมี” หรือ “จากที่เห็นเชฟกอร์ดอนกลายเป็นคุณแม่เทเรซ่าไปแล้วเมื่อเทียบกับแซมมีและเอมี” ทั้งทาง Yelp Youtube และเวบไซต์อื่นๆ เช่น Reddit ซึ่งสุดท้ายแล้วเฟสบุ๊กของทางร้านต้องขึ้นข้อความเมื่อเร็วๆนี้ว่า “เป็นที่แน่ชัดว่า เฟสบุ๊กของทางร้าน Yelp Twitter รวมทั้งเวบไซต์ถูกแฮก ตอนนี้เราได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รวมถึง FBI ให้ตรวจสอบในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหุการณ์นี้ขึ้นอีก ทางเราไม่ได้โพสต์ข้อความหยาบคายแต่อย่างใด ขอบคุณ เอมี&แซมมี”
และล่าสุดทางทีวี AFSFamily.com ได้ส่งนักข่าวไปที่ร้านและพบว่าทางร้านได้ปิดกิจการเพื่อปรับปรุงหลังจากทนทานกระแสต่อต้านไม่ไหว