เอเอฟพี - นครเซาเปาลูและรีโอเดจาเนโรของบราซิลยอมล้มเลิกแผนขึ้นค่าโดยสารรถประจำทาง ซึ่งเป็นชนวนให้มวลชนแซมบ้าออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่แล้ว วานนี้(19) ในขณะที่ผู้ชุมนุมเกิดตะลุมบอนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นอกสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังจัดการแข่งขันในศึกคอนเฟดเดอเรชันส์คัพ
การตัดสินใจล่าถอยของผู้บริหารเมืองเซาเปาลูและรีโอเดจาเนโร นับเป็นชัยชนะที่สวยงามสำหรับผู้ชุมนุมซึ่งออกมาแสดงพลังมวลชนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี จนก่อให้เกิดการเปรียบเทียบกับกระแสอาหรับสปริง และการประท้วงรัฐบาลในตุรกีที่กำลังดำเนินอยู่เช่นกัน
การประท้วงครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากความไม่พอใจของประชาชนในนครเซาเปาลู ต่อการขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางจากเดิมราคา 3 เรอัล (ราว 42.2 บาท) เป็น 3.20 เรอัล (ราว 45 บาท) ก่อนจะลุกลามบานปลายเป็นการเดินขบวนต่อต้านการทุจริตคอรัปชันทั่วประเทศ เนื่องจากชาวบราซิลรู้สึกโกรธแค้นที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณมหาศาลให้โครงการก่อสร้างและปรับปรุงสนามกีฬาต่างๆ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลโลกปี 2014 และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2016 แต่กลับให้ความใส่ใจต่อกิจการด้านสังคมต่างๆเพียงน้อยนิด
เครัลโด อัลค์มิน ผู้ว่าการรัฐเซาเปาลู ยืนยันว่า อัตราค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน, รถไฟ และรถประจำทาง จะลดลงจากราวๆ 1.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 45 บาท) เหลือเพียง 1.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 42 บาท) ซึ่งเป็นราคาเดิมในวันจันทร์หน้า (24) ขณะที่ เอดูอาร์โด ปาเอส ผู้ว่าการเมืองรีโอเดจาเนโร ก็ประกาศจะลดราคาค่าโดยสารรถประจำทางจาก 1.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 41 บาท) ลงไปเหลือเพียง 1.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 38 บาท) ตามเดิมเช่นกัน
เมืองใหญ่อื่นๆของบราซิล เช่น ปอร์ตูอาเลเกร และเรซิเฟ ก็ยกเลิกแผนขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะแล้ว
ทั้งนี้ แม้ค่าโดยสารจะถูกปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ชาวบราซิลส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นภาระหนักสำหรับประเทศที่ค่าแรงขึ้นต่ำต่อเดือนยังอยู่ที่ราวๆ 306 ดอลลาร์สหรัฐฯ (9,460 บาท)
รัฐบาลบราซิลทุ่มงบประมาณสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจัดเตรียมประเทศให้พร้อมต่อการเป็นเจ้าภาพศึกฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชันส์คัพ ซึ่งเป็นเสมือนการอุ่นเครื่องก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นในปีหน้า ขณะที่ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่รู้สึกคับแค้นจากภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง กล่าวหาว่ารัฐบาลละเลยเรื่องระบบสาธารณสุขและการศึกษา เพื่อเอาเงินไปเทให้กับสนามกีฬาเหล่านั้น
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(18) มีชาวบราซิลอย่างน้อย 50,000 คนออกมาเดินขบวนต่อต้านนักการเมืองและประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ บนท้องถนนในเมืองเซาเปาลู ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของบราซิลด้วย