เอเจนซีส์ - บรรดาแม่ๆ สมัยใหม่ของอังกฤษต่างต้องปวดหัว เมื่อต้องเปลี่ยนครัวของพวกเธอเป็นที่ทำจัดเลี้ยง เพื่อให้พอกับความต้องการของครอบครัวพวกเธอ 9 มื้อต่อวัน และยอมรับอย่างหน้าชื่นอกตรมว่า พวกเธอต้องเครียดถึงขั้นวีนแตกอย่างน้อย 5 ครั้ง ต่อวัน รายงานจากโมเดิร์นมัม
เกือบจะ 1 ใน 4 ของแม่บ้านชาวอังกฤษที่ยอมรับว่าต้องทำอาหาร 9 มื้อต่อวัน เพื่อจะสนองความต้องการครอบครัวที่ยุ่งเหยิงของพวกเธอ และมากไปกว่านี้ 1 ใน 20 ได้เปิดเผยว่า พวกเธอต้องทำอาหารมากกว่า 10 มื้อต่อวัน ทุกวันเพื่อสนองนิสัยการกินของสมาชิกในครอบครัว
นอกไปจากนี้บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายต่างยึดอกยอมรับว่า พวกเธอเครียดมากจนเลยความอดทนไปอย่างน้อย 5 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ 14% ยอมรับว่า พวกเธอโกรธอย่างน้อย 10 ครั้งต่อวัน หรือมากไปกว่านั้น
จากการศึกษาถึงวิถีชีวิตสมัยใหม่ของบรรดาคุณแม่ชาวอังกฤษที่มีบุตรอายุ 5 ปี หรือน้อยกว่านั้น จำนวน 1,000 ราย พบว่า มี “ความเครียดตามรายชั่วโมง” เกิดขึ้นมากที่สุดในตอนทุกเช้าวันจันทร์ เวลา 11.56 น.เพราะเป็นเวลาที่คุณแม่ต้องเตรียมทำอาหารกลางวัน และตามมาด้วย เวลา 8.01 น.และ 17.30 น.
โดยมีสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดสูงสุดดังนี้
เครียดระหว่างช้อปในซูเปอร์มาร์เก็ตและต้องพะวงกับลูกเล็กๆ ที่เกาะอยู่ข้างหลัง 35%
จัดการงานบ้านต่างๆ ให้เรียบร้อยในขณะเดียวกับต้องคอยเป็นเพื่อนเล่นกับลูกตัวน้อย 35%
ความรู้สึกที่งัวเงียอารมณ์เสียที่ต้องตื่นตอนเช้าพร้อมกับนาฬิกาปลุก ทำอาหารเช้าและออกนอกบ้าน 31%
เครียดที่ต้องคอยปะเหลาะลูกน้อยให้ทานอาหารที่ตัวเองทำในแต่ละมื้อ 28%
เตรียมอาหารแต่ละมื้อสำหรับครอบครัวที่ยุ่งเหยิง 24%
แอนนาเบล คาร์เมล เจ้าของผลงานหนังสือแนะนำคุณแม่ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำอาหารเลี้ยงดูเด็ก กล่าวว่า “การทำอาหารแค่ 1 มื้อ นับว่าเป็นเรื่องยาก เนื่องมาจากต้องบริหารเวลามาทำงานบ้านอื่นๆ และเตรียมพร้อมกับกิจกรรมต่างๆ หลังเลิกเรียนของลูก แต่การทำอาหาร 63 มื้อต่ออาทิตย์ แน่นอนว่าต้องทดสอบต่อความยืดหยุ่นอย่างมากที่สุดในการปรับตัวของบรรดาแม่ๆ ปัญหาก็คือ 56% ของคุณแม่ชาวอังกฤษรู้สึกผิดหากว่าไม่ได้ทำอาหารที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เตรียมเครื่องปรุงและทุกอย่างเองทั้งหมด ดังนั้นพวกเธอต้องการทำอาหารอะไรก็ตามที่ไม่ยุ่งยากในแต่ละมื้อตลอดวัน โดยพวกเธอไม่ต้องมีอาการเครียดมากนัก”
นอกจากนี้ คาร์เมลยังเสริมต่อไปว่า “ในแต่ละวัน บรรดาแม่ชาวอังกฤษใช้เวลาราว 3.28 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยในการทำงานบ้านหรือสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัว ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของพวกเธอ โดย 35% ของแม่ชาวอังกฤษยอมรับว่า ไม่มีเวลาที่จะกินอาหารในบางมื้อ โดยเฉพาะอาหารเย็น และสำหรับคนที่มีเวลากิน พวกเธอเหล่านั้นกินอาหารที่ลูกน้อยเธอกินเหลือ”
และมากกว่า 1 ใน 4 ของคุณแม่ยอมรับว่า กลัวว่าอาหารจะไม่มากพอสำหรับความต้องการของครอบครัว และถ้าเกี่ยวกับคุณภาพของอาหาร มากกว่า 1 ใน 5 ต่างยอมรับถึงพฤติกรรมอันเลวร้ายของคู่ของเธอที่บางครั้งอาจจะมากกว่าบรรดาลูกๆ เมื่อเกี่ยวกับการกินที่เรื่องมาก
ในการที่จะหลีกเลี่ยงสภาพหายนะในครัว 40% ของคุณแม่ที่ตอบแบบสอบถาม พบว่าพวกเธอพาลูกๆ ไปกินที่บ้านเพื่อน หรือบ้านญาติแทนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง