xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.งง พท.รีบปัดแดงป่วนไทยรัฐ ย้อน “แม้ว” ตัวปัญหา ดักล้มศาลเพื่อล้างผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประธาน ส.ส.กทม.ปชป.ประณามพวกปาประทัดป่วนไทยรัฐ ป่าเถื่อน งง พท.ร้อนตัวแจงไม่เกี่ยวสาวก หวั่นชี้นำกระทบคดี ตบปาก “นช.แม้ว” ย้ำไทยไร้ปัญหาเรื่ององค์รวม ดักหวังใช้ รธน.ผูกขาดอำนาจ เหตุติงล้าหลัง ยันมีถ่วงดุลอำนาจสามารถตรวจสอบได้ ย้อนพฤติกรรมตัวเองคือต้นเหตุปัญหา ซัด พท.ส่งซิก นักวิชาการ แดง แยกกันเดินรวมกันตีล้มศาล รธน. หวังล้างผิดนายใหญ่



วันนี้ (12 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีการใช้ลูกเปตอง และประทัดป่วนสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอย่างยิ่ง หากคนเหล่านั้นเห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทำเรื่องที่ละเมิดกฎหมายก็ควรใช้กระบวนการยุติธรรมในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย ดีกว่าที่จะไปใช้ความรุนแรงป่าเถื่อน ทั้งนี้มีสิ่งน่าสังเกต คือ เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบออกมายืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยไปประท้วงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐก่อนหน้านี้ แต่ตนคิดว่าการที่จะระบุได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้นควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะหาพยานหลักฐาน และนำคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย พรรคการเมืองไม่ควรไปชี้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน มีเสียงข้างมากในสภาและบริหารประเทศอยู่ ซึ่งการออกมาชี้นำอาจทำให้ผลการสืบสวนสอบสวนถูกบิดเบือนไปได้ อย่างไรก็ตาม อยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาคนผิดมาลงโทษเพื่อไม่ให้การใช้ความรุนแรงเป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีกต่อไป

นายองอาจกล่าวต่อถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศไทยไม่มีการแก้ปัญหาแบบองค์รวม รัฐธรรมนูญล้าหลัง และการแก้ปัญหาไม่ได้มองที่ต้นเหตุปัญหาว่า ประเทศไทยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งการกำหนดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐของรัฐบาลอดีตและในปัจจุบัน และการพิจารณางบประมาณประจำปีนั้น ล้วนมีการพูดถึงการบริหารงานแบบองค์รวมอย่างต่อเนื่องเสมอมา ฉะนั้นประเทศไทยจึงไม่มีปัญหาในเรื่องปัญหาเรื่ององค์รวม เพราะมีการพิจารณายุทศาสตร์และการแก้ปัญหาของประเทศนั้นเป็นไปในลักษณะองค์รวมอยู่แล้ว แต่ก็มีบางเรื่องที่ต้องมีการบริหารจัดการเฉพาะส่วน ซึ่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่ารัฐธรรมนูญล้าหลังนั้น ทั้งรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 มีหลักสำคัญในเรื่องการเข้าสู่อำนาจ ที่ต้องเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม จึงต้องมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขึ้นมาทำหน้าที่ นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญยังเน้นเรื่องการใช้อำนาจผู้ที่ได้อำนาจจากการเลือกตั้ง รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจ จึงต้องมีองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบการใช้อำนาจ อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญได้กำหนดการใช้อำนาจให้มีการถ่วงดุล และตรวจสอบกันระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ไม่ได้เป็นการดำเนินการแบบแยกส่วนแต่อย่างใด

“หากใช้แนวคิดเรื่ององค์รวมในเรื่องอำนาจ อาจจะนำไปสู่การผูกขาดการใช้อำนาจ ซึ่งผมตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้มีการใช้อำนาจแบบองค์รวมผ่านรัฐธรรมนูญเพื่อผูกขาดการใช้อำนาจใช่หรือไม่ เพราะในขณะนี้การเข้าสู่อำนาจ การใช้อำนาจ และการตรวจสอบนั้นเป็นไปอย่างสมดุล และสามารถตรวจสอบได้” นายองอาจกล่าว

นายองอาจกล่าวอีกว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าประเทศไทยไม่แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุนั้น ตนเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาในประเทศนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอยู่แล้ว ซึ่งปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองในปัจจุบันนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณยึดหลัก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค และจริงจังกับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ตัว พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งในต้นเหตุปัญหาของประเทศ เพราะต้นเหตุปัญหาของประเทศในขณะนี้เกิดขึ้นในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจบริหารประเทศ ที่มีการทุจริตเชิงนโยบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน ใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งหาก พ.ต.ท.ทักษิณอยากแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็คงมองเห็นว่าต้นเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากให้ทบทวน ไตร่ตรองว่าตัวเองควรมีพฤติกรรมอย่างไรที่จะช่วยให้ปัญหาทุเลา และคลี่คลายลง

นายองอาจกล่าวต่อถึงกรณีการปราศรัยในเวทีของพรรคเพื่อไทย ที่พูดถึงศาลรัฐธรรมนูญและการนิรโทษกรรมว่า ขณะนี้กระบวนการที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรม เป็นกระบวนการที่ทำเป็นระบบ แบบแยกกันเดินรวมกันตี โดยให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาดิสเครดิต ข่มขู่ คุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ให้นักวิชาการหาช่องทางกฎหมายเล่นงานศาล และมีการใช้เสียงข้างมากของ ส.ส.ในสภาหักดิบดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายนิรโทษกรรมช่วยนายใหญ่ ขณะนี้แม้ม็อบคนเสื้อแดงที่ชุมนุมขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะสลายตัวไปแล้ว แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวจากรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ ซึ่งมีเหตุผลสำคัญในการเคลื่อนไหวเพราะนายใหญ่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย และเหตุที่ต้องมุ่งทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกำลังจะเป็นผู้วินิจฉัยกฎหมายหลายเรื่อง ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นขบวนการในการล้มล้างคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหา และบางคดีที่ได้ตัดสินไปแล้ว รวมไปถึงล้มล้างคดีให้กับนักการเมืองในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น