วานนี้ (12 พ.ค.) พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเว็บไซต์สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี ถูกมือดีแฮกเกอร์เข้าไปในเว็บไซต์ และมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในเว็บไซต์จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดย่านอาร์ซีเอของนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร อายุ 29 ปี หรือฉายา “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอสอี” หนึ่งในผู้ต้องสงสัย รวมทั้งที่ทำงานย่านคลองตัน เพื่อยึดเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญนั้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายณรงค์ฤทธิ์ ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งและยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากต้องใช้มูลหลายส่วนประกอบกัน ส่วนจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี พบพยานหลักฐานมากอยู่พอสมควร โดยเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบปากคำนายณรงค์ฤทธิ์ ก็ได้ให้การยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลหาตัวผู้กระทำผิดตัวจริง โดยนายณรงค์ฤทธิ์ ยังเชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เป้าหมายของกลุ่มผู้กระทำผิดแคบลงมาแล้ว แต่ยังคงต้องรอดูความชัดเจนก่อน เนื่องจากคาดว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องพัวพันอีกหลายคน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Unlimited Hack Team หรือไม่นั้น คงจะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยยืนยีนคดีจะไๆม่มีมวยล้ม แต่ขั้นตอนการตรวจสอบคต้องใช้ระยะนานพอสมควร เนื่องจากข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ยึดมาได้นั้นมีเยอะ และมักจะใช้นามแฝง จึงต้องเร่งหาจัวตนที่แทีจริง ก่อนเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจปอท.ได้นำตัว นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มแฮกเกอร์ที่เข้ามาแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามอบตัวต่อพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบ.ก.ปอท.) โดยใช้ฉายาในวงการแฮกเกอร์ “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอ็กซ์อี” โดยอ้างว่าเคยมีประเด็นอยู่กับทีม Unlimited Hack Team ซึ่งเมื่อทีมดังกล่าวออกมาปฏิเสธเรื่องนี้โดยอ้างว่าคนอื่นอาจจะทำแล้วใส่ร้ายเขานั้น
กลุ่ม Unlimited Hack Team ขอชี้แจงว่าบุคคลในข่าว ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Unlimited Hack Team และไม่เคยเป็น สมาชิกทีม แต่อย่างใด เขามีทีมของเขาเอง ฉายานามแฝงของเขา ไม่มีในทีม Unlimited Hack Team โดยไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้กระทำผิด และไม่เคยให้ข่าวว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เพียงตั้งข้อสงสัยว่ามีบุคคลอื่นไปทำแล้วอ้างชื่อ Unlimited Hack Team เท่านั้น นอกจากนี้ บุคคล คนนี้อ้างว่า ถูกกลั่นแกล้ง จากกลุ่ม Unlimited Hack Team ซึ่งไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่า ไม่เคยแฮคเว็บสำนักนายกรัฐมนตรี และไม่เคยให้ร้ายใคร ถ้าเราทำ เราจะประกาศตัวชัดเจนเสมอ
“คนบ้าเท่านั้นที่จะกลั่นแกล้งผู้อื่น โดยใส่ชื่อของตัวเองลงไป” คำชี้แจงกลุ่ม Unlimited Hack Team ระบุ
ส่วนความคืบหน้า กรณี คนร้ายขว้างลูกเปตอง จำนวน 2 ลูก และประทัดยักษ์ ใส่ป้อมรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ประตู 3 หรือประตูทางออกของ บริษัท วัชรพล จำกัด (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยพ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าว่าเจ้าหน้าที่ได้นำลูกเปตองทั้ง 2 ลูก ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ส่งให้สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ รอยนิ้วมือของคนร้ายที่ติดอยู่บนลูกเปตองแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ ดีเอ็นเอ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กว่า 40 ตัว ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และพื้นที่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีด้วย แต่ว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จึงไม่สามารถประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ได้ต้องรอให้เปิดทำการเวลาราชการเสียก่อน
พล.ต.ต. สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้กำชับเกี่ยวกับการหาภาพจากกล้องวงจรปิด ในบริเวณใกล้เคียง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี ส่วนมาตราการป้องกันเหตุนั้นได้สั่งเพิ่มความถี่ของสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบในการตรวจตราหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น .2 เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่ง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้แบ่งชุดทำงานลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นจะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (13 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สน.บางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจับกุมคนร้ายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ในประเด็นการติดตามหาเบาะแสลูกเปตองที่คนร้ายใช้ปาใส่ป้อมรักษาความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อได้ออกตระเวนตามร้านค้าขายอุปกรณ์กีฬาในเขตท้องที่ แต่ยังไม่พบเบาะแสจึงจะขยายวงออกไปนอกพื้นที่ เพราะคนร้ายไม่สามารถทำลูกเปตองเองได้ ต้องไปซื้อมาจากร้านค้าแน่นอน รวมทั้งจะประสานสมาคมกีฬาเปตองเพื่อขอความรู้เรื่องลูกเปตองเพราะเป็นกลุ่มเฉพาะที่จะรู้ว่าเป็นลูกเปตองที่หาซื้อตามร้านค้าทั่วไป หรือเป็นลูกเปตองราคาแพงที่ต้องซื้อตามร้านเฉพาะเท่านั้น
สำหรับประเด็นการก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปทางการสร้างสถานการณ์ของมือที่ 3 มากกว่า เพราะการคุกคามสื่อมวลชนนั้นคนดีคงไม่มีใครทำ เวลานี้เจ้าหน้าที่จึงพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปตรวจโดยละเอียด ทั้งดีเอ็นเอ ที่เก็บได้จากลูกเปตอง และวัตถุพยานอื่น ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ดูแลสื่อมวลชนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกเต็มที่ ดูแลเป็นอย่างดี หรือถ้าคิดว่าต้องการให้มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม สามารถร้องขอได้ทันที
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีการใช้ลูกเปตอง และประทัดยักษ์ ป่วนสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอย่างยิ่ง หากคนเหล่านั้นเห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ทำเรื่องที่ละเมิดกฎหมาย ก็ควรใช้กระบวนการยุติธรรมในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย ดีกว่าที่จะไปใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน
ทั้งนี้ มีสิ่งน่าสังเกตคือ เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบออกมายืนยันว่า ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยไปประท้วงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก่อนหน้านี้ แต่ตนคิดว่า การที่จะระบุได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้น ควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะหาพยาน หลักฐาน และนำคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย พรรคการเมืองไม่ควรไปชี้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน มีเสียงข้างมากในสภา และบริหารประเทศอยู่ ซึ่งการออกมาชี้นำอาจทำให้ผลการสืบสวนสอบสวนถูกบิดเบือนไปได้ อย่างไรก็ตามอยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาคนผิดมาลงโทษเพื่อไม่ให้การใช้ความรุนแรงเป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีกต่อไป.
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายณรงค์ฤทธิ์ ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งและยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากต้องใช้มูลหลายส่วนประกอบกัน ส่วนจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี พบพยานหลักฐานมากอยู่พอสมควร โดยเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบปากคำนายณรงค์ฤทธิ์ ก็ได้ให้การยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลหาตัวผู้กระทำผิดตัวจริง โดยนายณรงค์ฤทธิ์ ยังเชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เป้าหมายของกลุ่มผู้กระทำผิดแคบลงมาแล้ว แต่ยังคงต้องรอดูความชัดเจนก่อน เนื่องจากคาดว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องพัวพันอีกหลายคน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Unlimited Hack Team หรือไม่นั้น คงจะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยยืนยีนคดีจะไๆม่มีมวยล้ม แต่ขั้นตอนการตรวจสอบคต้องใช้ระยะนานพอสมควร เนื่องจากข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ยึดมาได้นั้นมีเยอะ และมักจะใช้นามแฝง จึงต้องเร่งหาจัวตนที่แทีจริง ก่อนเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจปอท.ได้นำตัว นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มแฮกเกอร์ที่เข้ามาแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามอบตัวต่อพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบ.ก.ปอท.) โดยใช้ฉายาในวงการแฮกเกอร์ “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอ็กซ์อี” โดยอ้างว่าเคยมีประเด็นอยู่กับทีม Unlimited Hack Team ซึ่งเมื่อทีมดังกล่าวออกมาปฏิเสธเรื่องนี้โดยอ้างว่าคนอื่นอาจจะทำแล้วใส่ร้ายเขานั้น
กลุ่ม Unlimited Hack Team ขอชี้แจงว่าบุคคลในข่าว ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Unlimited Hack Team และไม่เคยเป็น สมาชิกทีม แต่อย่างใด เขามีทีมของเขาเอง ฉายานามแฝงของเขา ไม่มีในทีม Unlimited Hack Team โดยไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้กระทำผิด และไม่เคยให้ข่าวว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เพียงตั้งข้อสงสัยว่ามีบุคคลอื่นไปทำแล้วอ้างชื่อ Unlimited Hack Team เท่านั้น นอกจากนี้ บุคคล คนนี้อ้างว่า ถูกกลั่นแกล้ง จากกลุ่ม Unlimited Hack Team ซึ่งไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่า ไม่เคยแฮคเว็บสำนักนายกรัฐมนตรี และไม่เคยให้ร้ายใคร ถ้าเราทำ เราจะประกาศตัวชัดเจนเสมอ
“คนบ้าเท่านั้นที่จะกลั่นแกล้งผู้อื่น โดยใส่ชื่อของตัวเองลงไป” คำชี้แจงกลุ่ม Unlimited Hack Team ระบุ
ส่วนความคืบหน้า กรณี คนร้ายขว้างลูกเปตอง จำนวน 2 ลูก และประทัดยักษ์ ใส่ป้อมรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ประตู 3 หรือประตูทางออกของ บริษัท วัชรพล จำกัด (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยพ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าว่าเจ้าหน้าที่ได้นำลูกเปตองทั้ง 2 ลูก ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ส่งให้สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ รอยนิ้วมือของคนร้ายที่ติดอยู่บนลูกเปตองแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ ดีเอ็นเอ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กว่า 40 ตัว ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และพื้นที่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีด้วย แต่ว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จึงไม่สามารถประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ได้ต้องรอให้เปิดทำการเวลาราชการเสียก่อน
พล.ต.ต. สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้กำชับเกี่ยวกับการหาภาพจากกล้องวงจรปิด ในบริเวณใกล้เคียง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี ส่วนมาตราการป้องกันเหตุนั้นได้สั่งเพิ่มความถี่ของสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบในการตรวจตราหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น .2 เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่ง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้แบ่งชุดทำงานลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นจะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (13 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สน.บางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจับกุมคนร้ายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ในประเด็นการติดตามหาเบาะแสลูกเปตองที่คนร้ายใช้ปาใส่ป้อมรักษาความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อได้ออกตระเวนตามร้านค้าขายอุปกรณ์กีฬาในเขตท้องที่ แต่ยังไม่พบเบาะแสจึงจะขยายวงออกไปนอกพื้นที่ เพราะคนร้ายไม่สามารถทำลูกเปตองเองได้ ต้องไปซื้อมาจากร้านค้าแน่นอน รวมทั้งจะประสานสมาคมกีฬาเปตองเพื่อขอความรู้เรื่องลูกเปตองเพราะเป็นกลุ่มเฉพาะที่จะรู้ว่าเป็นลูกเปตองที่หาซื้อตามร้านค้าทั่วไป หรือเป็นลูกเปตองราคาแพงที่ต้องซื้อตามร้านเฉพาะเท่านั้น
สำหรับประเด็นการก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปทางการสร้างสถานการณ์ของมือที่ 3 มากกว่า เพราะการคุกคามสื่อมวลชนนั้นคนดีคงไม่มีใครทำ เวลานี้เจ้าหน้าที่จึงพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปตรวจโดยละเอียด ทั้งดีเอ็นเอ ที่เก็บได้จากลูกเปตอง และวัตถุพยานอื่น ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ดูแลสื่อมวลชนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกเต็มที่ ดูแลเป็นอย่างดี หรือถ้าคิดว่าต้องการให้มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม สามารถร้องขอได้ทันที
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีการใช้ลูกเปตอง และประทัดยักษ์ ป่วนสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอประณามการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมอย่างยิ่ง หากคนเหล่านั้นเห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ทำเรื่องที่ละเมิดกฎหมาย ก็ควรใช้กระบวนการยุติธรรมในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย ดีกว่าที่จะไปใช้ความรุนแรง ป่าเถื่อน
ทั้งนี้ มีสิ่งน่าสังเกตคือ เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงรีบออกมายืนยันว่า ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยไปประท้วงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก่อนหน้านี้ แต่ตนคิดว่า การที่จะระบุได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้น ควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะหาพยาน หลักฐาน และนำคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมาย พรรคการเมืองไม่ควรไปชี้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน มีเสียงข้างมากในสภา และบริหารประเทศอยู่ ซึ่งการออกมาชี้นำอาจทำให้ผลการสืบสวนสอบสวนถูกบิดเบือนไปได้ อย่างไรก็ตามอยากเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาคนผิดมาลงโทษเพื่อไม่ให้การใช้ความรุนแรงเป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีกต่อไป.
