เอเจนซีส์ - ในวันพุธ (12) เฟซบุ๊กเริ่มประมวณผลข้อมูลผ่านฟาร์มเซิร์ฟเวอร์แหล่งใหม่เป็นครั้งแรก ที่มีที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ ฟาร์มเซิร์ฟเวอร์แหล่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในสวีเดน ประเทศที่อยู่ใกล้ทวีปอาร์กติก
บริษัทเฟซบุ๊กได้เริ่มเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์แหล่งใหม่ของเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (12) โดยเซิร์ฟเวอร์ราวครึ่งนึงของทั้งหมดเป็นของใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาด 300,000 ตารางฟุต นอกเมืองลูเลอา ของสวีเดน คาดว่าจะเพิ่มศักยภาพของโซเชียลเน็ตเวิร์กในทวีปยุโรป
เฟซบุ๊กเป็นหนึ่งในบริษัทไอทีที่มีข่าวเกี่ยวกับโครงการปริซึมของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ ผู้อำนวยการประจำศูนย์ปฎิบัติการของเฟซบุ๊ก ทอม ฟูร์ลอง กล่าวว่าการขยายเซอร์เวอร์มาที่สวีเดนในครั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของการให้บริการของผู้ใช้ที่อยู่ในยุโรป ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ในสวีเดนจะมีข้อมูลเหมือนกับเซิร์ฟเวอร์ที่อื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่เขาไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ในการที่มีชื่อของเฟซบุ๊กในปฏิบัติการ “ปริซึม”
โจน คาร์ลวง นักรณรงค์สำหรับเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและเป็นซีอีโอของบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตชื่อ “บานโฮฟ” ในสวีเดน กล่าวว่า จากความจริงที่เซิร์ฟเวอร์ของเฟซบุ๊กตั้งอยู่ในสวีเดน มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น“ทุกอย่างมันถูกก๊อบปี้ไว้ ดังนั้นจึงไม่มีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้มัน” คาร์ลวงกล่าว
เมื่อบริษัทเฟซบุ๊กประกาศแผนการที่จะสร้างฟาร์มเซิร์ฟเวอร์ขึ้นในสวีเดนเมื่อ 2 ปี ก่อน บรรดานักเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตได้เตือนว่า มันจะทำให้ข้อมูลผู้ใช้บริการถูกมอนิเตอร์ได้โดยเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงของสวีเดน หรือ FRA
นอกจากนี้ คาร์ลวง ยังเผยต่อไปว่า ปฏิบัติการของ NSA มันดูจะล้วงข้อมูลมากกว่าที่เจ้าหน้าที่จาก FRA ทำ ซึ่งของสวีเดนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2008 FRAจะแค่มอนิเตอร์ดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในขณะที่ปฎิบัติการ “ปริซึม” จะเอาข้อมูลตั้งแต่อดีตที่เก็บไว้ในระบบออกมา
ในขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กกล่าวว่า เหตุผลที่เลือกเมืองลูเลอาเป็นที่ตั้งแห่งใหม่ เพราะมีอากาศที่เย็น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาอุณภูมิของเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ และยังสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฮโดรพาวเวอร์ที่อยู่ไม่ไกลอีกด้วย การย้ายในครั้งนี้สะท้อนถึงการเติบโตของยอดผู้ใช้ราว 1.11 พันล้านคนทั่วโลก ที่บริษัทใช้แคลิฟอร์เนียเป็นฐานในการเก็บเซิร์ฟเวอร์ข้อมูล