xs
xsm
sm
md
lg

ห้างขายส่ง “คอสโค” ชี้ “ราคาถูก”และ “ค่าจ้างแพง” ไปด้วยกันได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัตรสมาชิกรายปีของคอสโค
เอเจนซีส์ - ร้านค้าส่งลดราคายักษ์ใหญ่ของอเมริกา “คอสโค” แสดงให้เห็นว่าสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ไม่แพงและยังสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ในจำนวนที่เหมาะสมอีกด้วย ต่อคู่แข่งอย่างห้างวอลมาร์ทที่เป็นเจ้าของ “แซมส์ คลับ” ที่เป็นร้านค้าส่งลดราคาคู่แข่งทางการค้าโดยตรงของคอสโค

บลูมเบิร์ก บิสเนสวีค เรียกคอสโคว่า “บริษัทของที่สุดในโลกทั้งราคาและค่าแรง” พร้อมทั้งแจกแจงความแตกต่างทางแนวคิดระหว่างคอสโคและวอลมาร์ทซึ่งเป็นสัญลักษร์การค้าปลีกของอเมริกา

ในปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พนักงานห้างวอลมาร์ทในไมอามี บอสตัน และที่ซานฟรานซิสโก เริ่มประท้วงนัดหยุดงานในช่วงยาวนานกว่าสัปดาห์ (โฆษกของวอลมาร์ทเผยกับสถานีข่าว MSNBC ว่าการสไตร๊ค์ในครั้งนี้ว่า “ทำเพื่อเป็นข่าว”) เพื่อค่าจ้างที่สูงขึ้นและสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ดีขึ้น ในขณะที่ตลอดช่วงเวลากว่า 30 ปีของคอสโค ยังไม่เคยมีการประท้วงที่ดุเดือดแบบที่มักเกิดขึ้นกับวอลมาร์ทเลย

ห้างคอสโคเชื่อมั่นในการใช้เงินลงทุนกับพนักงาน ค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยตกอยู่ที่ 20.89 ดอลลาร์ เปรียบเทียบกับที่วอลมาร์ทจ่ายให้กับพนักงานของตัวเองที่ 12.67 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐฯอยู่ที่ 8 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง บิสเนสวีครายงาน

นอกจากนี้พนักงานของคอสโคราว 88% ได้รับ ประกันสุขภาพจากบริษัท คอสโค บิสเนสวีค เสริมต่อว่า วอลมาร์ทแถลงว่าพนักงานวอลมาร์ทมากกว่า 50% มีประกันสุขภาพ

เมื่อพิจารณาดูเงินเดือนของผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัทจะพบว่า

CEO ของคอสโคมีรายได้โดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาอยู่ที่

เงินเดือน 650,000 ดอลลาร์ต่อปี
โบนัส 200,000 ดอลลาร์
หุ้น 4 ล้านดอลลาร์

CEO ของวอลมาร์ทมีรายได้โดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา

เงินเดือน 1.3 ล้านดอลลาร์ต่อปี
โบนัส 4.4 ล้านดอลลาร์
หุ้น 13.6 ล้านดอลลาร์

ตั้งแต่ปี 2009 ราคาหุ้นของคอสโคเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและยอดขายโดยรวมโตขึ้นราว 39% ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีสาขามากที่เรียกว่า Chain store ต่างถูกร้านออนไลน์อย่าง “อเมซอน” เล่นงาน แต่มันไม่มีผลกระทบกับห้างคอสโค และในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่บรรดาบริษัทคู่แข่งต่างรัดเข็มขัดโดยการเลิกจ้างพนักงาน คอสโคในทางกลับกัน เพิ่มเงินค่าจ้างขึ้นอีก 1.50 ดอลลาร์ โดยเฉลี่ย ซึ่งทำให้บริษัทต้องจ่ายราว 20 ล้านดอลลาร์ บิสเนสวีคให้รายละเอียด

ในเวลาเดียวกัน วอลมาร์ทมีความพยายามในการแก้ปัญหาที่จะไม่ให้ชั้นวางของในร้านว่าง (เป็นเพราะวอลมาร์ทมีปัญหาเรื่องพนักงานมาตลอด ทำให้ลูกค้าที่มาวอลมาร์ทต่างเห็นชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่า) โดยการใช้กลยุทธ์ที่แปลกๆ ที่เรียกว่า “กลยุทธ์จุดเขียว” มาแก้ปัญหา ซึ่งทั้งพนักงานวอลมาร์ทในอดีตและปัจจุบันต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มันไม่ได้ผล

ในเรื่องอัตราค่าสมาชิกรายปีเพื่อจับจ่ายสินค้าในร้านคอสโค พบว่าอัตราสมาชิกของคอสโคแพงกว่าร้านแซมส์คลับอยู่ราว 10 ดอลลาร์ แต่ทว่าสินค้าที่ขายในร้านของคอสโคนั้นถูกกว่าราว 15% บิสเนสวีครายงาน กล่าวตบท้าย
ร้านค้าส่งลดราคายักษ์ใหญ่ของอเมริกา “คอสโค”
กำลังโหลดความคิดเห็น