เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการอาร์เจนตินาประกาศมาตรการล่าสุดในวันจันทร์ (4) ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดที่วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เกตทั่วประเทศนาน 2 เดือน จนถึงวันที่ 1 เมษายนเป็นอย่างน้อย หวังช่วยเหลือประชาชนในภาวะข้าวยากหมากแพงและเงินเฟ้อพุ่งสูง
รายงานของสำนักข่าว “เตลัม” ของทางการระบุว่า กิเยร์โม โมเรโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของอาร์เจนตินาสามารถบรรลุข้อตกลงในการตรึงราคาสินค้ากับบรรดากลุ่มการค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท, คาร์ฟูร์, โกโต, จัมโบ และดิสโก ที่ครองสัดส่วนในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภครวมกันกว่าร้อยละ 70 ของประเทศ โดยมาตรการตรึงราคาสินค้าดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายนนี้
คำแถลงของกระทรวงพาณิชย์อาร์เจนตินาระบุว่า หากผู้บริโภครายใดพบเห็นการขึ้นราคาสินค้าในร้านค้าแห่งใดก็ตามก่อนวันที่ 1 เมษายนนี้ ผู้บริโภคก็สามารถนำใบเสร็จมาใช้เป็นหลักฐานในการร้องเรียนกับสายด่วนของทางกระทรวงฯ ได้ โดยทางกระทรวงฯ จะมีเงินรางวัลมอบให้จำนวนหนึ่งแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการฉวยโอกาสฝ่าฝืนขึ้นราคาสินค้าของบรรดาร้านค้าต่างๆ ด้วย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลบัวโนสไอเรสมีขึ้นหลังจากผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ระบุว่า ประชาชนชาวอาร์เจนตินาส่วนใหญ่มีความกังวลกับปัญหาเงินเฟ้อมากที่สุด ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงของประเทศอาจพุ่งสูงถึงร้อยละ 30 ในปีนี้ สวนทางกับข้อมูลของรัฐบาลที่อ้างว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศยังคงอยู่ที่ร้อยละ 10 เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอาร์เจนตินาภายใต้การนำของประธานาธิบดีหญิงกริสตินา เฟร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ถูกโจมตีอย่างหนักจากหลายฝ่าย รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ที่เตือนว่า อาจพิจารณาลงโทษอาร์เจนตินา รวมถึงอาจขับอาร์เจนตินาจากการเป็นสมาชิก หากรัฐบาลบัวโนสไอเรสยังไม่ยอมยกเลิกการใช้วิธี “โกหกสีขาว” เพื่อปกปิดตัวเลขทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ทั้งอัตราการเติบโตของจีดีพี และตัวเลขเงินเฟ้อ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ประธานาธิบดีหญิงของอาร์เจนตินาอาจประกาศใช้ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อแบบใหม่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เพื่อเลี่ยงการถูกลงโทษจากไอเอ็มเอฟ