เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ควบคุมโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะเผยในวันพุธ (5) ที่ผ่านมา พบว่ามีถังน้ำโลหะใบหนึ่งรั่วจากบรรดาจำนวนถังนับร้อยใบที่บรรจุน้ำที่มีระดับการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสีในอัตราสูงในโรงงาน ทำให้เกิดคำถามอีกครั้งถึงความสามารถของบริษัทเทปโก้ในการจัดการเรื่องพวกนี้
การค้นพบการรั่วไหลครั้งใหม่นี้มีขึ้น 1 วันหลังจากบริษัท โตเกียว อิเล็กทริคพาวเวอร์ จำกัด หรือ เทปโก้ ได้ยอมรับว่าอนุภาคของสารซีเซียม (Cesium) ในน้ำใต้ดินที่ไหลเข้ามาในโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ซึ่งขัดแย้งกับก่อนหน้านี้ที่ทางเทปโกปฏิเสธว่าไม่มีการปนเปื้นสารกัมมันตภาพรังสีในแหล่งน้ำใต้ดินที่ไหลเข้ามาในเขตโรงงาน
อย่างไรก็ตาม ทางเทปโก้ยืนยันว่าขนาดรูรั่วของถังน้ำนั้นมีขนาดเล็ก ซึ่งเทียบเท่ากับราว 1 ใน 4 ของแกลลอนที่รั่วออกมา และระดับการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสีในน้ำใต้ดินใต้โรงงานไฟฟ้าฟูกูชิมะนั้นปลอดภัย
เมื่อไม่นานมานี้ ทางบริษัทเทปโกมีปัญหาที่ต้องกำจัดน้ำที่มีการปนเปื้อนราว 10 ล้านแกลลอน ที่ฟูกูชิมะ ซึ่งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีเหล่านี้ต้องเก็บในถังน้ำโลหะขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันนี้วางอยู่ในแทบทุกตารางนิ้วของบริเวณโรงงาน จำนวนของน้ำที่ปนเปื้อนในโรงงานไฟฟ้าฟูกูชิมะมีมากเท่ากับจำนวนของน้ำใต้ดินที่ไหลผ่านเข้ามาภายในห้องใต้ดินของตึกอย่างน้อย 3 แห่งที่มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากสึนามิในอัตราส่วน 100,000 แกลลอนต่อวัน ซึ่งทางเทปโก้ต้องสูบน้ำปนเปื้อนพวกนี้ออกทุกวันเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบหล่อเย็นที่รักษาความสมดุลของแท่งปฎิกรณ์นิวเคลียร์ที่หลอมละลาย
ทางโรงงานไฟฟ้าได้ติดตั้งระบบเครื่องกรองแบบใหม่ที่อ้างว่ามีคุณสมบัติสามารถกรองอนุภาคของสารกัมมันตภาพรังสีได้ทุกประเภท ยกเว้นอนุภาคของสารกัมมันตรังสีไตรเตียม (Tritium) แต่ถึงกระนั้นเทปโก้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บน้ำที่มีการปนเปื้อนไว้แทนที่จะปล่อยทิ้งลงมหาสมุทรไป
จากการรั่วไหลครั้งใหม่เมื่อวานนี้ (5) ทำให้เกิดการตื่นตัวในการจัดการปัญหานี้ขึ้น เพราะถ้ามีการรั่วไหลที่มากขึ้นไปกว่านี้ มีโอกาสที่สูงมากว่าน้ำปนเปื้นสารกัมมันตภาพรังสีจะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้าฟูกูชิมะ ซึ่งจากการเรียกร้องของประชาชนทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกคำสั่งให้เทปโก้หยุดการไหลเข้ามาของน้ำจากใต้ดินโดยการทำให้ดินที่อยู่รอบๆ ตึกของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เย็นจัดจนแข็งตัวลง (Frozen-earth wall) นอกจากนี้ เทปโก้มีแผนที่จะสูบน้ำดินลงทะเลก่อนที่มันจะเข้ามาในบริเวณของโรงงานและเกิดการปนเปื้อนขึ้น
อย่างไรก็ตาม แผนการสูบน้ำใต้ดินลงทะเลนี้ต้องได้รับการเห็นชอบจากชาวเมืองที่อยู่นอกโซนอพยพตลอดจนชาวประมงที่จับปลาเพื่อการพาณิชย์อยู่แถวนั้น ทางเทปโก้ได้ให้ความมั่นใจว่าน้ำใต้ดินที่จะปล่อยทิ้งนั้นต้องไม่มีการปนเปื้อนและปลอดภัยหากมันไปผสมกับน้ำเค็มในมหาสมุทรแปซิฟิก
แต่แท้จริงแล้ว แผนการพวกนี้อาจไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เนื่องจากการออกมายอมรับของเทปโก้ในวันอังคาร (4) ก่อนหน้านี้ ถึงการปนเปื้อนของอนุภาคซีเซียมในน้ำใต้ดิน อนุภาคซีเซียมนี้เป็นส่วนที่ออกมาจากแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่หลอมละลาย และในที่สุดเทปโก้ต้องยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดจากการทดสอบก่อนหน้านั้น พร้อมกล่าวว่าพบอนุภาครังสีซีเซียม 137(Cs-137) ราว 0.39 เบคเคอเรลต่อน้ำใต้ดิน 1 ลิตร และอ้างว่าจำนวนที่พบนี้ “ต่ำกว่า” มาตรฐานความปลอดภัยของญี่ปุ่นที่กำหนดให้น้ำดื่มต้องมีการปนเปื้อนไม่เกิน 10 เบคเคอเรลต่อน้ำ 1 ลิตร