เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศ บ็อบ คาร์ แห่งออสเตรเลียยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและแคนเบอร์รายังคงแน่นแฟ้น หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า พิมพ์เขียวอาคารสำนักงานข่าวกรองแห่งใหม่ของออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์ราถูกแฮกเกอร์จีนขโมยไปได้
สำนักข่าวเอบีซี รายงานว่า เอกสารลับที่ถูกแฮกเกอร์ขโมยไป ประกอบด้วยแผนผังการเชื่อมสายเคเบิลของระบบรักษาความปลอดภัยและการสื่อสารภายในสำนักงานข่าวกรอง, แผนผังอาคารชั้นต่างๆ และตำแหน่งของคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (server)
คาร์ แถลงว่า รัฐบาลออสเตรเลียตระหนักดีถึงปัญหาการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคง และ “ไม่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่กำลังเป็นที่พูดถึงกัน”
อย่างไรก็ดี คาร์ ไม่ขอยืนยันหรือปฏิเสธว่า จีนอยู่เบื้องหลังการจารกรรมข้อมูลลับดังกล่าวหรือไม่
“ผมไม่ขอยืนยันว่า จีนทำอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ และไม่ขอเอ่ยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข่าวกรองหรือความมั่นคง ด้วยเหตุผลที่ทุกคนก็น่าจะทราบดีว่า เราไม่ต้องการให้ทั่วโลกหรือผู้ที่ประสงค์ร้ายต่อเราทราบว่า เราล่วงรู้พฤติกรรมและแผนการของพวกเขามากน้อยแค่ไหน” คาร์ กล่าว
แม้ออสเตรเลียจะมีความร่วมมือด้านการทหารอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯมานาน แต่จีนก็ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดด้วย
คาร์ ยืนยันว่า ข่าวที่ออกมาจะไม่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้หน่วยงานของรัฐจะเคยตกเป็นเหยื่อแฮกเกอร์มาแล้วหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“เหตุการณ์นี้ไม่มีนัยยะสำคัญต่อความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์... เรายังมีความร่วมมือหลายๆด้านกับจีนอยู่”
สกู๊ปข่าวจากรายการ Four Corners ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี ระบุว่า การล้วงข้อมูลลับจากระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทคู่สัญญาที่ดำเนินการก่อสร้างสำนักงานใหญ่ของหน่วยข่าวกรองออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา ถูกกระทำผ่านเซอร์เวอร์ในจีน ขณะที่ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า ความสำเร็จของแฮกเกอร์กลุ่มนี้จะทำให้พวกเขาทราบความเคลื่อนไหวภายในหน่วยข่าวกรอง และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สำนักงานข่าวกรองเปิดใช้งานไม่ทันตามกำหนดในเดือนที่แล้ว
รายงานชิ้นนี้ถูกเปิดเผย ท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมของเหล่าแฮกเกอร์ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากรัฐบาลปักกิ่ง
เมื่อปี 2011 คอมพิวเตอร์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย ต้องสงสัยว่าจะถูกเจาะระบบโดยแฮกเกอร์ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในจีน