xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: ตุรกีเงินไหลเข้าอื้อ! ชายทั่วโลกยอมรับฝีมือแพทย์เติร์ก “ปลูกหนวดเครา” สุดเจ๋ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพทย์ตุรกีขึ้นชื่อว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายเส้นขน
เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - แม้วงการแพทย์ตุรกีมีชื่อเสียงมานมนานในด้านการให้บริการสำหรับผู้ที่รูขุมขนอาภัพ และเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการปลูกถ่ายเส้นผมสำหรับผู้ที่ศีรษะล้าน แต่วันนี้การปลูกถ่ายเส้นขน “บนใบหน้า” เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยคุณผู้ชายจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศแถบตะวันออกกลาง, ยุโรป หรือตะวันออกไกล ต่างหลั่งไหลไปยังนครอิสตันบูลเพื่อให้แพทย์ชาวเติร์กช่วยเสริมแต่งเส้นขนเหนือริมฝีปากให้ดูสมเป็นชายชาตรี

กระบวนการปลูกถ่ายหนวดเครานี้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า follicle-hair extraction โดยแพทย์จะทำการย้ายเส้นขนจากส่วนของร่างกายที่มีขนดก ก่อนจะนำมาปลูกถ่ายเหนือริมฝีปากและแก้ม เพื่อเพิ่มความหนาของเคราหรือหนวดตามแต่คนไข้จะเรียกร้อง

ศัลยแพทย์ด้านความงามที่นี่เปิดเผยว่า การปลูกถ่ายหนวดเคราซึ่งใช้เวลาครั้งละ 4-5 ชั่วโมง อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างประเทศ เนื่องจากธุรกิจนี้เริ่มมาบูมในยุคที่ชายตุรกีนิยมไว้หนวดกันน้อยลง

เซลาฮัตติน ตูลูเนย์ ศัลยแพทย์ผู้เปิดคลินิกเสริมความงามในย่านคนรวยของนครอิสตันบูล หรือที่เรียกกันว่า “เบเวอร์ลีย์ ฮิลส์” แห่งตุรกี เล่าว่า เขาเริ่มให้บริการปลูกถ่ายหนวดเครามาได้ 2 ปีแล้ว แต่ละเดือนมีลูกค้ามาขอรับบริการไม่ต่ำกว่า 60 ราย

“กระแสนิยมหนวดเครากำลังกลับมา ถ้าผู้ชายคนไหนหนวดไม่ค่อยมี เขาก็อยากจะทำให้มีขึ้นมาเพื่อแสดงถึงความเป็นชายชาตรี... ลูกค้าเราทราบดีว่าถ้าพวกเขามีเงินจ่าย เราก็จัดให้ได้ตามที่ต้องการ” ตูลูเนย์ เผย

นักธุรกิจชาวอิรักวัย 34 ปีซึ่งเป็นลูกค้าของ ตูลูเนย์ บอกว่า เขาเดินทางจากบ้านเกิดมาที่คลินิกแห่งนี้ เพื่อแก้ไขความอาภัพหนวดเคราซึ่งเป็นปมด้อยในชีวิตลูกผู้ชายมานานหลายปี

“การที่ผู้ชายไว้หนวดเคราถือเป็นเรื่องสำคัญมากในวัฒนธรรมของเรา ภรรยาของผมก็สนับสนุนให้ผมมาพบแพทย์ที่นี่ ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นมากครับ และยังแนะนำเพื่อนๆให้มาทำด้วย”
Ibrahim Tatlises นักร้องและนักแสดงชื่อดังชาวตุรกีผู้มีหนวดงาม
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (medical tourism) ซึ่งกำลังเฟื่องฟูสุดขีดทำรายได้ให้ตุรกีสูงถึง 1,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปรับบริการทางการแพทย์เพิ่มจาก 156,000 คน ในปี 2011 มาเป็น 270,000 คนในปี 2012 และมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าตุรกีเพื่อทำศัลยกรรมพลาสติกโดยเฉพาะถึง 100,000 ราย

ดาราภาพยนตร์ชาวตุรกีซึ่งไปโด่งดังทั้งในตะวันออกกลาง, แอฟริกาเหนือ และแถบคาบสมุทรบอลข่าน เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้ตุรกีกลายเป็น “เมดิคอล ฮับ” สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายเส้นขนบนใบหน้า โดยคนไข้ส่วนใหญ่มักจะขอให้แพทย์ช่วยเสริมหนวดเคราตามแบบดาราที่ตนชื่นชอบ

“ลูกค้าของดิฉันมักนำภาพถ่ายดาราที่มีหนวดเครางามมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ถ้ามันไม่รับกับใบหน้าของพวกเขา ดิฉันก็ไม่ทำให้นะคะ” ศัลยแพทย์หญิงประจำคลินิกอีซอมในเมืองอิสตันบูลกล่าว คลินิกของเธอมีโอกาสต้อนรับลูกค้าระดับวีไอพีมาแล้วมากมาย บางคนเป็นถึงผู้บริหารหรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากจีนและออสเตรเลีย

“เมื่อก่อนยังไม่มีลูกค้ามาปลูกถ่ายเส้นขนบนใบหน้ามากนัก เพราะการไว้หนวดเคราถูกมองเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า แต่ปัจจุบันนี้ หนวดเครากลับกลายเป็นแฟชันที่คนนิยม” เธอบอก

ความเฟื่องฟูของธุรกิจศัลยกรรมหนวดเคราในตุรกีทำให้บริษัททัวร์หลายแห่งเริ่มจัดแพ็จเกจทัวร์ “ปลูกถ่ายหนวด” ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ทั้งเสริมหนวดเคราและช้อปปิ้งไปพร้อมๆกัน หรือจะขอไปนอนอาบแดดอุ่นๆริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็ตามแต่จะเลือก

อย่างไรก็ดี ศัลยแพทย์บางรายได้ออกมาเตือนถึงด้านมืดของธุรกิจ นั่นก็คือบรรดา “หมอเถื่อน” ที่สวมรอยทำศัลยกรรมให้คนไข้โดยไม่มีใบอนุญาต
ผู้ชายจำนวนไม่น้อยปรารถนาที่จะมีแผงหนวดเหนือริมฝีปากแบบTom Selleck นักแสดงชาวอเมริกัน
ดร.เมลิก ค็อกซุส เปิดเผยว่า คนไข้หลายรายยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกระทรวงสาธารณสุขตุรกี หลังเข้ารับการศัลยกรรมกับหมอเถื่อน ซึ่งทางกระทรวงฯก็ได้ลงโทษผู้กระทำผิดด้วยการปรับเงินและสั่งปิดคลินิกเหล่านั้นเสีย

“ปัญหาใหญ่ก็คือ คนไข้ไปเจอโฆษณาตามเว็บไซต์และตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ทันที พวกเขาไม่เอะใจอะไร จนกระทั่งผ่าตัดไปแล้ว” ดร.ค็อกซุส อธิบาย

ศัลยแพทย์และผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของตุรกีเปิดเผยว่า ผู้ที่มารับบริการส่วนใหญ่เป็นชายชาวตะวันออกกลางซึ่งยังยึดถือประเพณีการไว้เคราตามคำสอนศาสนาอิสลาม

ชายชั้นสูงชาวอาหรับที่เปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมักนิยมโกนหนวดเคราจนเกลี้ยง ทว่ากระแสปฏิวัติประชาธิปไตยหรือ “อาหรับสปริง” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีส่วนกระตุ้นให้วัฒนธรรมการไว้เคราในหมู่ชาวอาหรับกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง

แม้ชื่อเสียงของแพทย์ตุรกีในด้านการปลูกถ่ายเส้นขนจะเป็นที่ยอมรับ แต่ปรากฎว่าหนุ่มๆชาวเติร์กกลับนิยมไว้หนวดกันน้อยลง ผลสำรวจโดยสถาบันวิจัยตลาด TNS ในเมืองอิสตันบูลพบว่า ตุรกีเคยมีผู้ชายไว้หนวดมากถึงร้อยละ 77 ในปี 1993แต่สถิติกลับลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือแค่ร้อยละ 24 ในปี 2011 ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ไว้เครากลับเพิ่มจากร้อยละ 18 เป็นร้อยละ 24 ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นสัญญานบอกว่า ประเทศนี้กำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นรัฐศาสนามากยิ่งขึ้น

เจนกิส อัลตัก หนุ่มเซลส์แมนผู้มีถิ่นพำนักในเมืองอิสตันบูล และไว้หนวดดกมานานถึง 35 ปี บอกว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมค่อนข้างแปลกใจถ้าเห็นผู้ชายเติร์กไม่มีหนวด แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว ถ้าพวกเขาคิดจะศัลยกรรมหนวดเคราก็ควรมาที่ตุรกี เพราะชายที่นี่มีหนวดงามเป็นที่อิจฉาของคนทั่วโลกเสมอมา”
กำลังโหลดความคิดเห็น