เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิต 6 คน และอีก 3 คนสูญหาย ภายหลังเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ลำหนึ่งพุ่งเข้าชนหอบังคับการของท่าเรือเมืองเจนัว ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีเรือสินค้าเข้าออกคึกคักที่สุดของอิตาลี พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุในวันพุธ (8 พ.ค.) ขณะที่เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่มีรายงานว่าเครื่องยนต์เรืออาจขัดข้องทำให้ควบคุมเรือไม่ได้
หอบังคับการสูงราว 50 เมตรและส่วนบนกรุด้วยกระจกของท่าเรือเจนัว ได้หักโค่นลงมาในน้ำอันเย็นยะเยือกในตอนเลยห้าทุ่มไปเล็กน้อยของคืนวันอังคาร (7) เมื่อส่วนหัวของเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ชื่อ “จอลลี เนโร” พุ่งเข้าไปในท่าเรือ ในขณะนั้นเป็นช่วงที่กำลังเปลี่ยนผลัดพอดี ทำให้มีผู้อยู่ในหอบังคับการถึง 13 คน พวกเขาบางคนตกลงในน้ำ บางคนยังติดอยู่ในหอ หรือในลิฟต์ที่หักโค่นลงในทะเล
หน่วยยามฝั่งระบุว่า ผู้ที่ตาย 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่ง คนหนึ่งเป็นพนักงานนำร่องประจำท่าเรือ ขณะที่โฆษกของหน่วยดับเพลิงบอกว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตอีก 3 คนยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร แต่สามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากซากของหอบังคับการได้ 2 คน ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนกล่าวว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ที่ตายและสูญหายแล้ว ยังมีที่บาดเจ็บอีก 4 คนซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยมี 2 คนอาการสาหัส คนหนึ่งเสียขาไปข้างหนึ่ง
เรือจอลลี เนโร ปฏิบัติตามระเบียบการในการเดินเรือ ด้วยแล่นมุ่งหน้าเข้าหาหอบังคับการ แต่แทนที่ว่าจากนั้นจะเลี้ยวหันหัวออกสู่ทะเลเปิดเพื่อไปยังเมืองท่าต่อไปที่จะเข้าจอดอันได้แก่เมืองเนเปิลส์ เรือกลับพุ่งตรงเข้าปะทะฝั่งที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตและโลหะ และหอบังคับการ
รายงานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า เรือขนาด 40,500 ตัน และยาวเกือบ 200 เมตร กว้าง 30 เมตร ต่อในปี 1976 ลำนี้ ประสบปัญหาด้านเครื่องยนต์ สอดคล้องกับคำพูดของพนักงานนำร่องผู้หนึ่งที่กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เครื่องยนต์เรือ 2 เครื่องดูเหมือนจะขัดข้อง ทำให้บังคับเรือไม่ได้
ดานิเอเล บา โฆษกของ อิกนาซิโอ เมสซินา แอนด์ โค บริษัทเจ้าของเรือจอลลี เนโร แถลงว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่มีใครคาดคิด เพราะเป็นเพียงการแล่นเรือซึ่งกระทำกันเป็นกิจวัตรประจำ เขาบอกด้วยว่า สินค้าในเรือมีทั้งยวดยานทางอุตสาหกรรมและรถบรรทุกเทรเลอร์คันหนึ่ง ตลอดจนตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าอีกหลายตู้
เวลานี้ พนักงานอัยการได้เปิดการสอบสวนแล้ว และตำรวจได้เข้าปิดกั้นรอบๆ เรือไว้ ขณะที่กัปตันเรือถูกควบคุมตัวเพื่อการสอบสวน อัยการ มิเกเล ดิ เลชเช บอกกับสื่อมวลชนอิตาลีว่า ความเป็นไปได้ประการหนึ่งซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาอยู่ในช่วงต้นๆ นี้ ก็คือเครื่องยนต์เกิดขัดข้องทำให้ไม่สามารถบังคับเรือให้เลี้ยวไปตามเส้นทางปกติได้
ทางด้าน เคลาดิโอ บูร์ลันโด ผู้ว่าการแคว้นลิกูเรีย ที่เมืองเจนัวตั้งอยู่ระบุว่า ขณะที่เกิดเหตุ เรือจอลลี เนโร ควบคุมโดยเจ้าหน้าที่นำร่องคนหนึ่งซึ่งอยู่บนเรือ และเรือลากจูง 2 ลำที่อยู่ทั้งด้านหัวและท้าย อันเป็นวิธีปฏิบัติตามปกติ จึงไม่เข้าใจว่า อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ส่วน ลุยจิ แมร์โล ผู้อำนวยการการท่าเรือเจนัว กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุอากาศดีมาก ไม่มีลม และไม่มีเรืออื่นๆ กำลังแล่นอยู่เลย
ภาพข่าวที่สถานีทีวีท้องถิ่นเผยแพร่เมื่อเช้าวันพุธ (8) เผยให้เห็นว่า ตัวหอบังคับการที่เหลืออยู่มีเพียงโครงบันไดโลหะที่เอียงกะเท่เร่
หน่วยกู้ภัยดำลงในน้ำที่มืดมิดรอบท่าเรือดังกล่าวเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังใช้สุนัขดมกลิ่นที่ได้รับการฝึกให้ค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ประสบแผ่นดินไหว เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ในซากหอบังคับการ
อุบัติเหตุครั้งนี้ตือนให้ชาวอิตาลีนึกถึงโศกนาฎกรรมเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งเรือสำราญ “กอสตา กอนกอร์ดิอา” อับปางนอกชายฝั่งเกาะจีกลิโอ ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารเสียชีวิต 32 คน โดยอุบัติเหตุคราวนั้นเกิดขึ้นจากการแล่นเรืออย่างสุ่มเสี่ยง และกัปตันพร้อมกับบุคคลอื่นอีก 5 คนถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย
