เอเอฟพี - แนวร่วมรัฐบาลมาเลเซีย บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งสำคัญของแดนเสือเหลือง ซึ่งเป็นการชนะเลือกตั้งครั้งที่ 13 หลังครองอำนาจมานานถึง 56 ปี วานนี้ (5) ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบรอฮิม กล่าวหารัฐบาลโกงสะบัด พร้อมปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
กลุ่มบีเอ็นซึ่งผูกขาดอำนาจปกครองตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 คว้าที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา 133 จากทั้งหมด 222 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ (5) ทว่า นาจิบ ยังคงได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ชนะเลือกตั้งแต่แพ้คะแนนป๊อบปูลาร์โหวต
นาจิบ วัย 59 ปี วิงวอนขอให้ทุกฝ่าย “สมานฉันท์” แต่ปฏิเสธที่จะทบทวนผลเลือกตั้งซึ่งมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์สูงเป็นประวัติการณ์
“นี่เป็นคำตัดสินจากประชาชน” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งส่งเสียงเชียร์กันคึกคัก
ด้านผู้นำฝ่ายค้านอย่างอันวาร์ยังประกาศกร้าวไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง หลังจากที่กลุ่มปากาตัน รักยัต ซึ่งมีเขาเป็นผู้นำต้องฝันสลาย เมื่อผลนับคะแนนช่วงท้ายๆ เทไปให้ฝ่ายรัฐบาลซึ่งเขาชี้ว่าทั้งทุจริตและกดขี่พลเมือง
“เราถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส และคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ล้มเหลวสิ้นดี” อันวาร์ กล่าวต่อสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย โดยฝ่ายค้านนั้นได้ที่นั่งในสภาไปเพียง 89 ที่นั่ง
ขณะเดียวกัน เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตมาเลเซียถึงกลโกงของกลุ่มบีเอ็น รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังพบว่าหมึกทานิ้วมือชนิดลบไม่ออกที่รัฐบาล นาจิบ นำมาใช้ป้องกันการลงคะแนนซ้ำนั้น เอาเข้าจริงกลับล้างออกอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการเปิดโปงหลักฐานภาพถ่าย, คลิปวิดีโอ และคำบอกเล่าจากผู้เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับ “ชาวต่างชาติ” ที่ถูกรัฐบาลนำมาสวมสิทธิเลือกตั้งด้วย
แม้เจ้าหน้าที่จากพรรคฝ่ายค้านจะเตรียมหาลู่ทางทางกฎหมายเพื่อตรวจสอบข้อครหาดังกล่าว แต่ก็เชื่อว่าจะไม่สามารถล้มชัยชนะของรัฐบาลได้
นาจิบ อาจต้องเผชิญแรงกดดันภายในพรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในกลุ่มบีเอ็น หากไม่สามารถดึงที่นั่งในสภาที่เสียให้กับ ปากาตัน รักยัต ในศึกเลือกตั้งปี 2008 กลับมาได้
แม้ชัยชนะของพรรคครั้งนี้จะไม่สวยหรูนัก แต่บีเอ็นก็สามารถดึงเอา 1 ใน 4 รัฐที่เคยเสียให้กับฝ่ายค้านกลับมาได้สำเร็จ
“นาจิบ จะยังครองอำนาจต่อไปได้อย่างน้อยอีก 1 สมัย” เจมส์ ชิน นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์ ให้ความเห็น
ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิสูงถึงร้อยละ 80 หรือประมาณ 10 ล้านคนจากทั้งหมด 13 ล้านคนทั่วประเทศ โดยแนวโน้มชัยชนะของ บีเอ็น เริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่เริ่มนับคะแนนไปได้เพียงร้อยละ 49
ชัยชนะของรัฐบาลคงจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองของ อันวาร์ วัย 65 ปี ซึ่งเคยประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะลาออกจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหากปากาตัน รักยัต แพ้เลือกตั้งคราวนี้
อันวาร์ อิบรอฮิม เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลบีเอ็น ก่อนจะขัดแย้งกับนายกฯ มหาธีร์ โมฮัมหมัด จนถูกบีบออกจากพรรคในปี 1998 และยังถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปีในข้อหารักร่วมเพศ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นเพียงแผนของรัฐบาลที่จ้องทำลายชื่อเสียงของ อันวาร์