xs
xsm
sm
md
lg

รบ.มาเลเซีย“สะท้าน”พลังคนรุ่นใหม่ หนุ่มสาวตัวแปรสำคัญเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซี - ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงวัยหนุ่มสาว กำลังเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางการเมืองมาเลเซียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความสั่นสะท้านให้แก่แนวร่วมรัฐบาลที่ผูกขาดครองอำนาจมาอย่างยาวนานหลายสิบปี

ปีนี้มีชาวมาเลเซียที่ขึ้นทะเบียนขอมีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกถึง 2.6 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 13.3 ล้านคน และมากกว่าจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงรายใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเกือบ 2 ล้านคน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความสนใจต่อเรื่องการเมืองซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างแรง หลังจากแนวร่วมฝ่ายค้านสามารถกวาดคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำในการเลือกตั้งปี 2008 กำลังผลักดันให้หนุ่มสาวจำนวนมากไปลงทะเบียนเพื่อออกเสียงเลือกตั้ง และนี่อาจกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ (5) ซึ่งว่ากันว่า เป็นการแข่งขันครั้งที่คู่คี่ที่สุดในประเทศซึ่งมีความหลากหลายด้านทางเชื้อชาติอย่างมากแห่งนี้

แนวร่วมรัฐบาลที่มีชื่อว่า “บาริซัน เนชันแนล” ได้ขึ้นปกครองประเทศผูกขาดอำนาจมา 56 ปีแบบไม่มีเว้นวรรค เวลานี้ยังคงควบคุมสื่อกระแสหลักอย่างแน่นหนาและยังสามารถหาเสียงได้อย่างเต็มที่จากความดีความชอบในการสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

แนวโน้มที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ฝ่ายรัฐบาลยังคงเป็นผู้ชนะ ทว่าได้เสียงข้างมากในสภาลดน้อยลง กระนั้น พันธมิตรฝ่ายค้านยังคงเชื่อและวาดหวังว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงรุ่นใหม่ๆ จะเป็น “ปัจจัย X" ที่สั่นสะเทือนการเลือกตั้งมาเลเซียอย่างรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่ประเทศเป็นเอกราชในปี 1957
สตรีรายหนึ่งชูป้ายสนับสนุนนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรี ขณะที่เชื่อว่าคนหนุ่มสาวจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับศึกเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์นี้
ว่ากันว่า ชัยชนะของฝ่ายค้านจะทำให้มาเลเซียก้าวเข้าสู่ภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง ในเมื่อฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบันที่นำโดยพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นผู้ครองอำนาจมาอย่างยาวนานที่สุดในบรรดาประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก อีกทั้งยังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดถอนรากถอนโคนในสัมพันธภาพที่เป็นกันเองระหว่างรัฐบาลกับภาคธุรกิจ

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งมีเสียงข้างมากในสภาลดลงเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะตอบสนองเสียงเรียกร้องให้ดำเนินการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยและการบริหารประเทศที่โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้มากขึ้น

เสียงเรียกร้องเหล่านั้นส่วนใหญ่ดังมาจากหนุ่มสาวที่ได้รับข่าวสารจากเว็บไซต์อิสระมากกว่าพวกสื่อกระแสหลักในคาถาของภาครัฐ หลายคนอดรดทนไม่ได้กับการปฏิรูปอย่างค่อยเป็นค่อยไปของนาจิบ วัย 59 ปี สมาชิกลูกหม้อของอัมโน อีกทั้งเป็นบุตรชายของนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของมาเลเซีย

ผลสำรวจความคิดเห็นของเมอร์เดกา เซนเตอร์ที่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ระบุว่า ในขณะที่นาจิบมีคะแนนนิยม 61% แต่ปรากฏว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอายุ 21-30 ปี เป็นกลุ่มที่ไม่พอใจผลงานของเขามากที่สุด

โพลอีกเจ้าหนึ่งของมหาวิทยาลัยมลายาที่เผยแพร่ออกมาในเดือนมกราคมชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงรุ่นใหม่ 52% สนับสนุนให้อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่นาจิบได้คะแนนแค่ 30%

เจมส์ ชิน หัวหน้าภาควิชาศิลปะและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยโมนาช วิทยาเขตมาเลเซีย ชี้ว่า ประเด็นสำคัญสำหรับหนุ่มสาวคือ ความโปร่งใส ธรรมาภิบาล และการทุจริต ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่รัฐบาลมีผลงานย่ำแย่ทั้งสิ้น

การชุมนุมประท้วงในเดือนที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปการเลือกตั้ง และการสงวนรักษาแร่ที่มีธาตุโลหะหายาก ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมนับหมื่นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งเกินคาดของกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว

ไครานี ราซัค นักศึกษาวัย 22 ปีจากมหาวิทยาลัยมลายา บอกว่า การเคลื่อนไหวไม่จำเป็นว่าผู้เข้าร่วมต้องการผลทางการเมืองเสมอไป แต่อาจเป็นการเคลื่อนไหวของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง หลังจากประเทศอยู่ภายใต้การบริหารของบาริซัน เนชันแนลมาหลายสิบปี

นาจิบนั้นพยายามโน้มน้าวเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ เป็นต้นว่า ด้วยการสร้างเพจบนทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามเกือบ 1.5 ล้านคน นอกจากนั้นแนวร่วมรัฐบาลยังจัดฟรีคอนเสิร์ตระดับยักษ์หลายต่อหลายครั้ง โดยเชิญศิลปินระดับโลกมาขึ้นเวที เป็นต้นว่า ไซ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นาจิบยังอนุมัติการปฏิรูปกฎหมายความมั่นคงและกฎหมายควบคุมสื่อ เพื่อมุ่งเอาใจหนุ่มสาวและคนชั้นกลาง กระนั้น รัฐบาลยังคงไม่สามารถลบเลือนภาพลักษณ์ลัทธิเล่นพรรคเล่นพวกของอัมโนลงไปได้ ขณะที่มีเสียงวิจารณ์ว่า การปฏิรูปเหล่านี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าจะเห็นผลเป็นเนื้อเป็นหนัง

บาวานี เคเอส นักศึกษากฎหมายจากมหาวิทยาลัยอุตระ ผู้โด่งดังในยูทูบหลังมีการเผยแพร่คลิปที่เธอถูกผู้พูดที่สนับสนุนรัฐบาลรายหนึ่งตะโกนไล่ในระหว่างที่มีงานของนักศึกษาเมื่อเดือนมกราคม ให้ความเห็นว่า ระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยส่งเสริมบรรยากาศของการเชื่อฟังโดยไม่ซักถามใดๆ และหากมีนักศึกษาคนใดโต้แย้งก็จะกลายเป็นการต่อต้านมหาวิทยาลัยโดยปริยาย ซึ่งแนวทางนี้ขัดแย้งกับข้อเรียกร้องของนายจ้างที่ต้องการพนักงานที่มีความคิดสร้างสรรค์โดยสิ้นเชิง

ฝ่ายค้านนั้นถือโอกาสประกาศเรื่องการจัดให้เรียนฟรีในในระดับอุดมศึกษา เป็นนโยบายหาเสียงสำคัญของพวกตน ทางฝ่ายรัฐบาลก็ตอบโต้โจมตีว่า เป็นคำสัญญาที่ไร้ความรับผิดชอบ ทว่าก็ทำการละเลงงบประมาณเพื่อแย่งชิงคะแนนในหมู่หนุ่มสาว ด้วยการประกาศโครงการแจกคูปองสำหรับใช้ซื้อหนังสือเป็นมูลค่ารวม 106.6 ล้านดอลลาร์ และสำหรับซื้อสมาร์ทโฟนอีก 98.4 ล้านดอลลาร์

ไครี จามูลุดดิน หัวหน้าปีกยุวชนที่มีสมาชิก 600,000 คนของอัมโน เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่า คนพากันเข้าใจผิดว่า หนุ่มสาวจะโหวตให้กับฝ่ายค้านที่ให้สัญญาสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

“เราต่างหากคือฝ่ายที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็วมากกว่า และเราต้องทำให้แน่ใจว่า วาระแห่งการปฏิรูปไม่ใช่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายค้านเท่านั้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น