เอเอฟพี - ตำรวจนิวยอร์กพบชิ้นส่วนเครื่องบินตกค้างอยู่ระหว่างอาคาร 2 หลังในย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน ซึ่งคาดว่าจะมาจากเครื่องบินพาณิชย์ 1 ใน 2 ลำที่ถูกผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะห์จี้บังคับให้พุ่งชนอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001
จุดที่พบชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นซอกเล็กๆ ระหว่างอาคารเลขที่ 51 ปาร์กเพลส และอาคารเลขที่ 50 ถนนเมอร์เรย์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกราวนด์ซีโรไปเพียง 2 ช่วงตึก และเนื่องจากเป็นพื้นที่แคบมาก ชิ้นส่วนเครื่องบินมรณะจึงรอดพ้นสายตาของพนักงานสอบสวนมาได้นานถึง 12 ปี
พอล บราวน์ โฆษกตำรวจเปิดเผยว่า ชิ้นส่วนที่พบน่าจะเป็นเกียร์ลงจอด (landing gear) ของเครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือก่อวินาศกรรม 9/11 โดยรหัสตัวเลขของบริษัท โบอิ้ง ยังคงเห็นได้ “อย่างชัดเจน”
ขณะที่ตำรวจยังไม่ยืนยันขนาดของวัตถุที่พบ แต่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีรายงานว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.5 เมตร
ทางการสหรัฐฯ จะยังไม่เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนเครื่องบิน จนกว่าจะตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่อาจตกค้างอยู่ด้วย
“สำนักงานตำรวจนิวยอร์กได้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าว เช่นเดียวกับจุดเกิดอาชญากรรมอื่นๆ โดยมีการบันทึกภาพและห้ามบุคคลทั่วไปเข้า จนกว่าสำนักงานหัวหน้าแพทย์ผู้ตรวจสอบ (Office of the Chief Medical Examiner) จะประเมินความปลอดภัยเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจะมีคำสั่งลงมาอีกครั้งว่า จะต้องนำดินไปตรวจสอบเพื่อหาชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์หรือไม่” บราวน์ ระบุในถ้อยแถลง
ทางการนิวยอร์กได้รับแจ้งเรื่องชิ้นส่วนเครื่องบิน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24) หลังทีมตรวจสอบไปพบวัตถุซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าเป็นเศษเครื่องกล อยู่ที่ด้านหลังอาคารเลขที่ 51 ปาร์กเพลส
เหตุวินาศกรรมที่อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ทำให้มีผู้สังเวยชีวิตไปถึง 2,753 ราย ซึ่งในวันเดียวกันนั้น เครื่องบินโดยสารอีกลำหนึ่งก็ถูกกลุ่มก่อการร้ายจี้บังคับให้พุ่งชนอาคารเพนตากอน ส่วนลำที่ 4 ประสบอุบัติเหตุตกเสียก่อนที่มลรัฐเพนซิลเวเนีย
สำนักงานหัวหน้าแพทย์ผู้ตรวจสอบ ระบุว่า ศพเหยื่ออีก 1,112 คนในเหตุการณ์ 9/11 ยังคงหาไม่พบจนทุกวันนี้
ตั้งแต่ปี 2006 ทางการสหรัฐฯ นำกระดูก 6,134 ชิ้น และชิ้นส่วนอื่นๆ อีก 1,845 ชิ้น ไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์เฉพาะบุคคล จนสามารถระบุชื่อเหยื่อได้แล้ว 34 ราย