เอเอฟพี - เกาหลีใต้เผยวันศุกร์ (26) ตัดสินใจถอนคนงานที่เหลือทั้งหมดออกจากนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับเกาหลีเหนือแล้ว โดยให้เหตุผลเพื่อความปลอดภัย หลังจากเปียงยางปฏิเสธข้อเสนอเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างไร้เยื่อใย ทว่าฟากเจ้าของบริษัทไม่เห็นด้วยความเคลื่อนไหวนี้และยืนยันพร้อมลงทุนต่อ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีที่กินเวลามานานนับเดือน และก่อความสงสัยเพิ่มเติมต่ออนาคตของเขตอุตสาหกรรมแกซองในอนาคต โดยเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งเกาหลีเหนือและนับเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือระหว่างสองชาติเกาหลีอันสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ รวมถึงเป็นช่องทางเดียวที่รัฐบาลโสมแดงจะดึงสกุลเงินแข็งเข้าประเทศได้
เหล่าบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินกิจการในแกซอง แสดงความรู้สึกช็อกต่อถ้อยแถลงของรัฐบาลและบอกว่าพวกเขาจำเป็นต้องทบทวนอย่างสุขุมรอบคอบต่อย่างก้าวต่อไป
เมื่อวันพฤหัสบดี (25) เกาหลีใต้ให้เวลาเกาหลีเหนือ 24 ชั่วโมง สำหรับตอบรับการเจรจาอย่างเป็นทางการในการคืนปฏิบัติการต่างๆในเขตอุตสาหกรรมแกซองหลังต้องหยุดชะงักลงท่ามกลางความตึงเครียด พร้อมเตือนจะใช้มาตรการที่มีนัยสำคัญหากเปียงยางปฏิเสธ
แต่ก็เป็นไปตามคาดที่หน่วยงานทางทหารระดับสูงของเกาหลีเหนือปฏิเสธ โดยบอกว่ามันเป็นข้อเสนอที่เสแสร้ง และในวันศุกร์ (26) นายรยู กิล-แจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ ออกมายืนยันว่าโซลไม่มีทางเลือกและจำเป็นต้องตัดสินใจถอนคนที่เหลืออกมาทั้งหมด
“รัฐบาลมิอาจหลีกเลี่ยงการตัดสินใจถอนคนงานทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้กล่าว “เกาหลีเหนือต้องรับประกันความปลอดภัยแก่คนงานของเราที่จะเดินทางกลับและปกป้องทรัพย์สินทั้งหมดของเหล่าบริษัทต่างๆที่ลงทุนในแกซอง”
คาบสมุทรเกาหลีถูกห้อมล้อมด้วยวงจรแห่งความตึงเครียด อันมีต้นตอจากการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และมันได้ลุกลามบานปลายจนกระทั่งเปียงยาง ปิดกั้นไม่ให้ฝั่งเกาหลีใต้เข้าไปยังเขตอุตสาหกรรมแกซองเมื่อวันที่ 3 เมษายน
6 วันต่อมา เปียงยาง ดำเนินการถอนคนงานจำนวน 53,000 คนออกมาและระงับปฏิบัติการต่างๆ หลังโกรธกริ้วต่อกรณีเกาหลีใต้กล่าวพาดพิงถึงแผนใช้กำลังทหารเข้าไปปกป้องบุคลากรภายในเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนบังคับใช้การตัดสินใจนี้อย่างไร แต่ทางเหล่าผู้แทนของบริษัทต่างๆ 123 แห่งซึ่งมีฐานผลิตในเขตอุตสาหกรรมแกซอง กลับไม่เห็นด้วย โดยประกาศจะยังคงและปกป้องการลงทุนของพวกเขา โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะแถลงมาตรการใดออกมาก็ตาม
ผู้แทนของกลุ่มอุตสาหกรรมรายหนึ่ง ระบุว่า การตัดสินใจของรัฐบาลเป็นเรื่องช็อคอย่างยิ่ง และเตรียมปรึกษาหารือกับเหล่าบริษัทสมาชิก ก่อนนำเสนอจุดยืนอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลต่อไป “เราเสียใจมาก เพราะเราพยายามค้ำจุนเขตอุตสาหกรรมแกซองด้วยเลือดและหยาดเหงื่อของเรา แต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ปประโยชน์”
ส่วนเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมแกซอง บอกกับเอเอฟพีว่าทางบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับรัฐบาล “หลังจากหารือกันแล้ว เราถึงจะตัดสินใจว่าจะถอนพนักงานที่เหลือทั้งหมดในแกซองออกมาหรือไม่ จนถึงตอนนี้เรายังไม่สามารถพูดได้ว่าคนงานของเราในแกซอง จะกลับมาเมื่อไหร่”