เอเอฟพี - ศาลปากีสถานไม่อนุมัติให้ยืดเวลาประกันตัวอดีตประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ในคดีพัวพันการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เบนาซีร์ บุตโต ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คดีอุกฉกรรจ์ที่มูชาร์ราฟถูกกล่าวโทษว่ากระทำผิดในช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งผู้นำปากีสถานระหว่างปี 1999-2008 ทนายเผยวันนี้ (24)
มูชาร์ราฟ ถูกกักบริเวณภายในบ้านพักชานกรุงอิสลามาบัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตามคำสั่งศาลซึ่งรับผิดชอบคดีปลดผู้พิพากษาอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ มูชาร์ราฟ ประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2007
อดีตนายพลซึ่งเดินทางไปรับฟังการไต่สวนคดี บุตโต เมื่อวันอังคาร (23) กลับไม่ยอมมาปรากฎตัวที่ศาลอีกในวันนี้ (24) เช่นเดียวกับหัวหน้าทนายความของเขา
เชาธรี อัซฮาร์ ทนายของรัฐ แถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนที่ศาลสูงเมืองลาฮอร์ว่า “ศาลปฏิเสธคำร้องขอประกันตัวของนายพลมูชาร์ราฟ... ขณะนี้สำนักงานสืบสวนแห่งรัฐฯ (เอฟไอเอ) ควรส่งเจ้าหน้าที่ไปจับกุมเขาทันที”
มูชาร์ราฟ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมวางแผงกำจัดอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ซึ่งถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2007
การถูกจับและเสียสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่งสำหรับอดีตผู้นำสูงสุดอย่าง มูชาร์ราฟ ซึ่งไปลี้ภัยอยู่ดูไบนานถึง 4 ปี ก่อนจะเดินทางกลับปากีสถานเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อ “กอบกู้ประเทศชาติ” ตามที่เจ้าตัวเอ่ยอ้าง
จนบัดนี้ คดีลอบสังหารบุตโต ที่เมืองราวัลปินดี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี 2007 ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้
รัฐบาลของมูชาร์ราฟอ้างว่า ไบตุลเลาะห์ เมห์ซูด แกนนำกลุ่มตอลิบาน คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุตโต ทว่า เมห์ซูดก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ก่อนที่เขาเองจะถูกเครื่องบินไร้คนขับสหรัฐฯ ปลิดชีพในเดือนสิงหาคม ปี 2009
รายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2010 ชี้ว่า การลอบสังหารอดีตนายกฯ บุตโต อาจไม่สำเร็จหากรัฐบาลปากีสถานในขณะนั้นมีมาตรการป้องกันอย่างเพียงพอ ขณะที่ บิลาวัล บุตโต ซาร์ดารี บุตรชายของอดีตนายกฯ หญิงผู้ล่วงลับ ถึงกับกล่าวหาอย่างชัดเจนว่ามูชาร์ราฟวางแผนกำจัดมารดาของตน