เอเอฟพี - ศาลปากีสถานออกหมายจับอดีตประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ในคดีถอดถอนผู้พิพากษาอย่างไม่เป็นธรรม ระหว่างที่รัฐบาลของเขาประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อปี 2007 วันนี้ (18)
ทั้งที่ศาลออกหมายจับแล้ว แต่ปรากฏว่า มูชาร์ราฟ ยังสามารถเดินออกจากศาลในกรุงอิสลามาบัดไปได้โดยไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวาง ก่อนจะเข้าไปกบดานอยู่ในคฤหาสน์หรูชานกรุงอิสลามาบัด โดยมีหน่วยคอมมานโดคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนา
ตำรวจที่คุ้มกัน มูชาร์ราฟ ได้สั่งปิดถนนที่มุ่งสู่ตัวบ้าน แต่ไม่หวงห้ามกองทัพสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวอย่างคึกคัก
กลุ่มสนับสนุน มูชาร์ราฟ หลายสิบคนซึ่งไปชุมนุมที่หน้าคฤหาสน์ ต่างตะโกนประณามคำสั่งศาลว่า “ไม่เป็นธรรม” และอวยพรให้ “มูชาร์ราฟจงเจริญ” ขณะที่สมาชิกอาวุโสในพรรคของ มูชาร์ราฟ ก็ทยอยเดินทางเข้าไปหารือกับอดีตนายพลผู้เป็นหัวหน้า
กอมาร์ อัฟซาล ทนายของ มูชาร์ราฟ ยืนยันว่า มีการออกหมายจับลูกความของเขาจริง
“ผู้พิพากษา เชากัต อาซิส ซิดดิกี สั่งยกเลิกการประกันตัวชั่วคราว” เขากล่าว
ตำรวจอาวุโสนายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์ว่า อันที่จริง มูชาร์ราฟ ควรถูกจับตั้งแต่อยู่ที่ศาล แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวางเมื่อเขาจะกลับออกไป
“ในเมื่อเขาออกจากศาลไปโดยไม่มีใครขัดขวาง บ้านของเขาอาจจะถูกประกาศเป็นคุกย่อยๆ และเขาก็น่าจะถูกกักตัวอยู่ภายในบ้านนั้นเอง”
ด้านโฆษกพรรค All Pakistan Muslim League ซึ่ง มูชาร์ราฟ และพวกร่วมกันก่อตั้งขณะที่ลี้ภัยในต่างแดนเพื่อกลับมาลงสนามเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ แถลงว่า ทางพรรคกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“คำสั่งศาลเช่นนี้ไม่เป็นธรรม... เราจะพิจารณาว่าควรทำอย่างไรต่อไป ทีมกฎหมายของเราจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกคำสั่งนี้” มูฮัมหมัด อัมจาด โฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์ที่หน้าคฤหาสน์ของ มูชาร์ราฟ และยอมรับว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าอดีตประธานาธิบดีจะถูกออกหมายจับ
นอกจากคดีปลดผู้พิพากษาแล้ว มูชาร์ราฟ ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันแผนลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี เบนาซีร์ บุตโต ในปี 2007 รวมถึงการปลิดชีพผู้นำกบฏบาโลช (Baloch) เมื่อปี 2006 ด้วย
รายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2010 ชี้ว่า การลอบสังหารอดีตนายกฯ บุตโต อาจไม่สำเร็จหากรัฐบาลปากีสถานในขณะนั้นมีมาตรการป้องกันอย่างเพียงพอ ขณะที่ บิลาวัล บุตโต ซาร์ดารี บุตรชายของอดีตนายกฯหญิงผู้ล่วงลับ ถึงกับกล่าวหาว่า มูชาร์ราฟ วางแผนกำจัดมารดาของตน
ศาลสูงสุดปากีสถานยังรับคำร้องจากทีมทนายซึ่งขอให้เอาผิดกับ มูชาร์ราฟ ฐานเป็นกบฏล้มล้างรัฐธรรมนูญ จากการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อปี 2007
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ เรียกร้องให้หน่วยงานด้านการทหารของปากีสถานซึ่งทำหน้าที่คุ้มกัน มูชาร์ราฟ ยอมส่งตัวเขาให้ตำรวจตามคำสั่งศาล
“การกระทำของนายพล มูชาร์ราฟ วันนี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม และคงจะคิดว่า ด้วยฐานะอดีตนายพลและผู้นำเผด็จการ เขามีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดในเหตุล่วงละเมิดที่เกิดขึ้น” อาลี ดายัน ฮาซัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำปากีสถาน แถลง
