xs
xsm
sm
md
lg

โสมแดงตั้งเงื่อนไข “เลิกคว่ำบาตร-เลิกซ้อมรบ” ก่อนยอมเจรจาสหรัฐฯ-เกาหลีใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักเคลื่อนไหวชาวเกาหลีใต้จุดไฟเผาภาพโปสเตอร์ล้อเลียนผู้นำ คิม จอง อึน ในการประท้วงต่อต้านเกาหลีเหนือที่กรุงโซล วันนี้(18)
เอเอฟพี - เกาหลีเหนือประกาศจะยอมเจรจากับอริใหญ่อย่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยมีเงื่อนไขว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะต้องยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรทั้งหมด และให้วอชิงตันและโซลยุติซ้อมรบประจำปี วันนี้ (18)

คณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติเกาหลีเหนือ มีคำแถลงเช้านี้ (18) ว่า “หากพวกศัตรูสหรัฐฯและเกาหลีใต้มีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเจรจากับเรา พวกเขาควรกระทำดังต่อไปนี้”

เงื่อนไขที่เกาหลีเหนือเสนอมาคาดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยแน่นอน เนื่องจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้เผยจุดยืนก่อนหน้านี้แล้วว่า การพูดคุยจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อโสมแดงแสดงเจตนารมณ์ที่จะลดอาวุธอย่างจริงจังเสียก่อน

คำแถลงล่าสุดของคณะกรรมาธิการกลาโหมเป็นอีกหนึ่งหมัดรุกของเกาหลีเหนือ ซึ่งข่มขู่เกาหลีใต้และสหรัฐฯแทบไม่เว้นวันในช่วง 2-3 สัปดาห์มานี้

ประธานาธิบดีหญิง พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี ซึ่งเดินทางเยือนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อไม่กี่วันก่อน ยืนยันว่า การเจรจาที่จะมีขึ้นในอนาคตต้องเป็นรูปธรรม โดยเกาหลีเหนือต้องส่งสัญญาณ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” ไปสู่การเคารพพันธสัญญาต่อนานาชาติเสียก่อน โดยเฉพาะในเรื่องกิจกรรมนิวเคลียร์

เมื่อวานนี้ (17) เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มูน ก็ออกมาเรียกร้องอย่างจริงจังให้เปียงยางพิจารณาข้อเสนอของโซล แต่ถ้อยแถลงของคณะกรรมาธิการกลาโหมโสมแดงในวันนี้ (18) ก็ไม่ต่างจากการปฏิเสธดีๆ นี่เอง

“ประการแรก ต้องมีการเพิกถอนมาตรการคว่ำบาตรที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติชงขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล” คำแถลงจากเกาหลีเหนือ ระบุ ซึ่งสอดคล้องกับที่เปียงยางเคยย้ำหลายครั้งว่า สถานการณ์อันเลวร้ายบนคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้ล้วนมีสาเหตุมาจากคำสั่งคว่ำบาตรของยูเอ็นทั้งสิ้น

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เกาหลีเหนือยกมาเป็นเงื่อนไขก็คือ ภารกิจซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ซึ่งมีการนำเครื่องบินทิ้งระเบิดติดอาวุธนิวเคลียร์ บี-52 และเครื่องบินปีกค้างคาว บี-2 สปิริต เข้ามาบินเหนือคาบสมุทรเกาหลีด้วย

“ประการถัดไป พวกท่านจะต้องประกาศใช้ทั่วโลกรับรู้ว่า จะไม่ข้องเกี่ยวกับการซ้อมทำสงครามนิวเคลียร์อันเป็นการคุกคามความมั่นคงของชาติเราอีก เพราะการเจรจากับสงครามไม่อาจไปด้วยกันได้”

เกาหลีเหนือยังเรียกร้องให้สหรัฐฯถอน “เครื่องไม้เครื่องมือ” ที่ใช้ทำสงครามนิวเคลียร์ออกไปจากคาบสมุทรเกาหลี และสัญญาว่าจะไม่นำกลับเข้ามาอีกเป็นอันขาด

ถ้อยแถลงจากคณะกรรมาธิการกลาโหมถูกประกาศออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่คณะกรรมาธิการเพื่อการรวบรวมเกาหลีอย่างสันติ ซึ่งเป็นหน่วยงานโสมแดงที่กำกับดูแลด้านความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ ปฏิเสธการร่วมวงเจรจาในเร็วๆนี้ และยังตำหนิข้อเสนอของเกาหลีใต้ว่าเป็นเพียง “กลลวง” เพื่อซื้อใจประชาชน และปฏิเสธความรับผิดชอบที่ทำให้คาบสมุทรเกาหลีต้องเข้าสู่ “ภาวะสงคราม”

อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงจากทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้เอ่ยถึงแผนทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” ที่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนหรือหลังวันเกิดอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง 15 เมษายน ที่ผ่านมา

ขีปนาวุธมูซูดันซึ่งเกาหลีเหนือยังไม่เคยทดสอบมาก่อนนี้ มีพิสัยยิงไกลสูงสุดถึง 4,000 กิโลเมตร ซึ่งมีศักยภาพพอที่จะโจมตีเป้าหมายทั้งในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น รวมถึงฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะกวม
กำลังโหลดความคิดเห็น