เอเอฟพี - อดีตสายลับเกาหลีเหนือซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิดสายการบินเกาหลีใต้ในปี 1987 เผย คิม จอง อึน ต้องสวมบทผู้นำหนุ่มใจกล้าท้ารบไปทั่ว เพื่อเรียกความศรัทธาในหมู่ทหารโสมแดง
คิม ฮยุน-ฮี อดีตสายลับหญิงซึ่งอ้างว่ารับคำสั่งจากผู้นำ คิม จอง อิล ให้วางระเบิดสายการบิน โคเรียน แอร์ ของเกาหลีใต้ จนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 115 ราย เมื่อ 26 ปีก่อน กล่าวว่า คิม ผู้ลูกกำลังพยายามสร้างฐานอำนาจให้ตนเอง หลังจากที่บิดาถึงแก่อสัญกรรมไปอย่างกะทันหันเมื่อปลายปี 2011
“คิม จอง อึน อายุยังน้อย และอ่อนประสบการณ์” สถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลีย เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ คิม ซึ่งพำนักอยู่ในกรุงโซล ท่ามกลางบอดีการ์ดคอยรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
“เขาพยายามที่จะควบคุมกองทัพและซื้อความภักดีจากเหล่าทหาร ด้วยเหตุนี้จึงได้ไปตรวจเยี่ยมฐานทัพทั่วประเทศ เพื่อให้ทหารยอมรับในตัวเขา”
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีถ้อยแถลงข่มขู่สหรัฐฯและเกาหลีใต้แทบไม่เว้นวัน และเมื่อวานนี้ (9) ก็แนะนำให้ชาวต่างประเทศรีบอพยพออกจากเกาหลีใต้ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ “สงครามนิวเคลียร์ความร้อน” ที่ใกล้จะอุบัติขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
คิม ฮยุน-ฮี ชี้ว่า การขู่ทำสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์เป็นเทคนิคที่บ้าคลั่งอย่างหนึ่งของผู้นำเกาหลีเหนือ
“เกาหลีเหนือหยิบยกสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมาขู่ให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐ และหวังว่าเกาหลีใต้กับสหรัฐฯจะยอมประนีประนอมให้”
อดีตสายลับหญิงผู้นี้ซ่อนระเบิดเวลาไว้ในที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะของสายการบิน โคเรียน แอร์ เที่ยวบินที่ 858 ซึ่งเดินทางจากกรุงแบกแดด มายังกรุงโซล เธอหนีลงจากเครื่องระหว่างจอดพักที่อาบูดาบี ก่อนจะถูกจับกุมพร้อมกับสายลับเกาหลีเหนืออีกคนหนึ่ง ขณะพยายามเดินทางออกจากบาห์เรนด้วยหนังสือเดินทางญี่ปุ่นปลอม
เมื่อถูกจับได้ เธอและเพื่อนตัดสินใจกินสารพิษไซยาไนด์เพื่อฆ่าตัวตาย แต่ปรากฎว่า คิม รอดชีวิต และถูกส่งตัวกลับไปกรุงโซล
เธอยอมรับสารภาพผิด และได้รับการอภัยโทษในที่สุด
คิม เขียนอัตชีวประวัติของเธอโดยใช้ชื่อว่า “Tears of My Soul” เพื่อบอกเล่าชีวิตขณะเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกสายลับของเกาหลีเหนือ และนำรายได้จากการขายหนังสือไปมอบให้ครอบครัวผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเที่ยวบินมรณะดังกล่าว
คิม ใช้ชีวิตเงียบๆ ร่วมกับสามีซึ่งเป็นบอดีการ์ดของเธอเอง และยังกลัวว่าสักวันหนึ่งจะถูกรัฐบาลโสมแดงตามล่าเอาชีวิต