เอเอฟพี - แรงงานชาวเกาหลีเหนือไม่เดินทางมาเข้างานตามปกติที่นิคมอุตสาหกรรมแกซองในเช้าวันนี้(9) หลังจากที่เปียงยางประกาศระงับการดำเนินงานของเขตอุตสาหกรรมที่โซลร่วมลงทุน และทำให้วิกฤตการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียิ่งร้อนระอุหนัก
โฆษกกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ แถลงว่า “จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีแรงงานชาวเกาหลีเหนือมารายงานตัวเลย”
คิม ยอง-กอน เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคแรงงานเกาหลี เดินทางไปตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เมื่อวานนี้(8) ก่อนจะมีการประกาศถอนคนงานและปิดนิคมอุตสาหกรรมชั่วคราว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 อยู่ห่างจากชายแดนเกาหลีใต้เพียง 10 กิโลเมตร ภายในเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมสัญชาติเกาหลีใต้ 123 แห่ง และมีการว่าจ้างแรงงานเกาหลีเหนือราว 53,000 คน
“เปียงยางจะพิจารณาว่า ควรให้นิคมอุตสาหกรรมแกซองมีอยู่ต่อไป หรือจะปิดลงอย่างถาวร” คิม ยอง-กอน กล่าว พร้อมชี้ว่า อนาคตของนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้
ก่อนหน้านี้ เคยมีบทวิเคราะห์ของสื่อเกาหลีใต้ที่กล่าวในทำนองว่า แม้สถานการณ์จะตึงเครียดเพียงใด เกาหลีเหนือก็จะไม่กล้าแตะต้องนิคมอุตสาหกรรมแกซองอย่างแน่นอน ซึ่งข้อคิดเห็นเช่นนี้เปียงยางถือว่าเป็นการดูหมิ่นเกียรติภูมิของชาติตนอย่างร้ายแรง
นิคมอุตสาหกรรมแกซองนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แทนความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือและใต้แล้ว ยังทำให้รัฐคอมมิวนิสต์มีรายได้เป็นสกุลเงินแข็งจากการเก็บภาษี และลดภาระค่าจ้างแรงงานในประเทศได้ถึง 53,000 คน
ผลประกอบการของนิคมอุตสาหกรรมอยู่ที่ราวๆ 469.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2012 และหากนับรวมตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ก็จะอยู่ที่ราวๆ 1,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เกาหลีเหนือไม่อนุญาตให้แรงงานโสมขาวข้ามแดนไปนิคมอุตสาหกรรมแกซองตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (3) ส่งผลให้บริษัทเกาหลีใต้ซึ่งมีฐานการผลิตที่นั่นต้องปิดดำเนินการไปแล้ว 13 แห่ง
ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ ระบุวันนี้(9)ว่า รู้สึกผิดหวังอย่างที่สุดต่อการตัดสินใจของเกาหลีเหนือ ขณะที่กระทรวงการรวมชาติก็ชี้ว่า การถอนคนงานออกจากนิคมอุตสาหกรรมไม่มีเหตุอันสมควรแม้แต่น้อย และรัฐบาลเกาหลีเหนือจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา
ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา(3) มีแรงงานเกาหลีใต้ทยอยเดินทางกลับจากเมืองแกซองแล้วกว่า 300 คน เหลืออีกเพียง 475 คนที่ยังอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา(8)
เช้าวันนี้(9) มีแรงงานเกาหลีใต้ลงทะเบียนขอกลับประเทศอีก 77 ราย โดยกลุ่มแรกจะเดินทางถึงชายแดนประมาณเที่ยงวัน (10.00 น. ตามเวลาในไทย)