เอเอฟพี - เกาหลีเหนือขู่จะถอนคนงานชาวโสมแดง 53,000 คนออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง และปิดเขตอุตสาหกรรมซึ่งมีโซลร่วมลงทุนแห่งนี้เสีย หลังจากที่เมื่อวานนี้ (3) ก็ไม่อนุญาตให้พลเมืองเกาหลีใต้ข้ามแดนเข้าไปทำงานตามปกติแล้ว
โฆษกคณะกรรมาธิการเพื่อการรวบรวมเกาหลีโดยสันติ (CPRK) แถลงว่า มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบโต้ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ที่ว่า กองทัพโสมขาวอาจใช้ “ปฏิบัติการทางทหาร” เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยพลเมืองที่ยังอยู่ในแกซอง
“หากพวกหุ่นเชิดเกาหลีใต้และสื่อหัวโบราณยังใช้วาจาสามหาวกับเรา เราจะสั่งถอนคนงานทั้งหมดออกจากแกซอง” สำนักข่าว เคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนืออ้างคำแถลงจากโฆษก ซึ่งกล่าวด้วยว่า “การปิดนิคมอุตสาหกรรมใกล้จะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว”
เปียงยางแจ้งให้รัฐบาลโซลทราบวานนี้ (3)ว่า นับจากนี้จะไม่อนุญาตให้แรงงานเกาหลีใต้ข้ามแดนไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งห่างจากชายแดนไปราวๆ 10 กิโลเมตร และเป็น “จุดเชื่อมโยง” ที่แท้จริงแห่งสุดท้ายระหว่างสองเกาหลี
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย กระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้แถลงว่า ยังมีพลเมืองโสมขาวพำนักอยู่ในเมืองแกซอง 812 คน
เกาหลีเหนืออนุญาตให้คนงานเกาหลีใต้เดินทางกลับประเทศได้ทันทีที่ต้องการ แต่ปรากฎว่าคนงานหลายร้อยคนเลือกที่จะอยู่ต่อ เพื่อให้นิคมอุตสาหกรรมดำเนินงานต่อไปได้
คิม ฮวาน-จิน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงต่อที่ประชุม ส.ส. พรรครัฐบาลวานนี้(3)ว่า กองทัพเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้วในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรง รวมถึง “ปฏิบัติการตอบโต้ทางทหาร” หากพลเมืองเกาหลีใต้ตกอยู่ในอันตราย
โฆษกเกาหลีเหนือตำหนิว่า คิม “พูดพล่าม” ไปเอง และเตือนว่า หากเกาหลีใต้ส่งทหารไปที่เมืองแกซองจะเท่ากับเป็นการ “ทำลายตัวเอง”
นิคมอุตสาหกรรมแกซองก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 และเป็นช่องทางเดียวที่รัฐบาลเกาหลีเหนือจะดึงสกุลเงินแข็งเข้าประเทศได้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีฝ่ายใดปล่อยให้ความขัดแย้งลุกลามถึงขั้นรบกวนการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้
เสถียรภาพของนิคมอุตสาหกรรมแกซองถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้วัดความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ และการปิดตัวของมันย่อมจะบ่งบอกได้ดียิ่งกว่าถ้อยคำขู่ใดๆว่า สถานการณ์ความขัดแย้งกำลังเข้าขั้นรุนแรงถึงขีดสุดแล้ว