ผู้นำโลกร่วมอาลัย-สรรเสริญ ตำนานหญิงเหล็ก “มาร์กาเรต แธตเชอร์”

เอเอฟพี - เหล่าผู้นำโลกในนั้นรวมถึงบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯและแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวสรรเสริญ มาร์กาเรต แธตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา “หญิงเหล็ก” แห่งสหราชอาณาจักร ผู้ล่วงลับ ระบุโลกได้สูญเสียนักสู้แห่งเสรีภาพและอิสรภาพไปอย่างไม่มีวันกลับ

“ในฐานะผู้สนับสนุนและพันธมิตรจากฝั่งตรงข้ามมหาสมุทรแอตเลติก เธอมองออกว่าด้วยความเข้มแข็งและความแน่วแน่ เราจะชนะสงครามเย็นและต่อเติมคำมั่นแห่งเสรีภาพ” ถ้อยแถลงของโอบามาระบุ

ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยกย่องอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษว่า “เป็นผู้นำที่พิเศษและมีบทบาทสำคัญที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของโลกตะวันตกเหนือค่ายคอมมิวนิสต์ในสงครามเย็น... ในช่วงเวลาของเธอ เธอคือผู้นำที่พิเศษในการเมืองโลก” ถ้อยแถลงของแมร์เคิลระบุ “ฉันไม่เคยลืมบทบาทของเธอในการก้าวผ่านความแตกแยกในยุโรปและยุติสงครามเย็น”

มาร์กาเรต ฮิลดา แธตเชอร์ หรือ “มาร์กาเรต แธตเชอร์” อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา “หญิงเหล็ก” แห่งสหราชอาณาจักร ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 87 ปี จากอาการป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงสมองอุดตันเมื่อวันจันทร์ (8) ด้วยสิริอายุ 87 ปี

พิธีฝังศพของนางแธตเชอร์ จะจัดขึ้นอย่างสมเกียรติด้วยพิธีเกียรติยศทางทหาร แบบเดียวกับพิธีศพของเจ้าหญิงไดอานา แม้จะไม่ถึงขั้นแบบรัฐพิธี แต่ในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ ก็มีแค่เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลเท่านั้นที่เคยได้รับการจัดงานศพขั้นสูงสุดดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษ ที่ครองอำนาจระหว่างปี 1979-1990 มีอาการสมองเสื่อมและปรากฎตัวต่อสาธารณชนน้อยครั้งมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เธอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม เพื่อผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ หลังมีเนื้องอกบริเวณกระเพาะปัสสาวะ

ลอร์ด เบลล์ โฆษกประจำตัวของนางแธตเชอร์ออกมาแถลงอ้างคำพูดของเซอร์ มาร์ก แธตเชอร์ บุตรชาย รวมถึง แครอล แธตเชอร์ บุตรสาวของนางมาร์กาเรต แธตเชอร์ ระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้จากไปอย่างสงบด้วยโรคเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงสมองอุดตัน เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ (8) ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวแธตเชอร์

หลังทราบข่าว สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกคำแถลงที่ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 องค์พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ได้ส่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระทัยต่อการจากไปของนางแธตเชอร์ไปยังสมาชิกในครอบครัวแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ออกมากล่าวว่า อังกฤษได้สูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ นายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ และพลเมืองที่ยิ่งใหญ่ในคราวเดียวกัน

“มันคือความเศร้าใจอย่างใหญ่หลวงที่ผมได้ทราบถึงการถึงแก่อสัญกรรมของเลดีแธตเชอร์ เราต้องสูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ นายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่และชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ไป” เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบันกล่าวแสดงความอาลัย ทั้งนี้นายคาเมรอน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสเปนและฝรั่งเศส ได้ตัดสินใจยกเลิกภารกิจชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับไปยังอังกฤษแล้ว

ด้านทำเนียบนายกรัฐมนตรีเผยว่า พิธีศพของแธตเชอร์จะจัดขึ้นแบบพิธีเกียรติยศทางทหาร ที่บริเวณมหาวิหารเซนต์พอล กลางกรุงลอนดอน ก่อนทางครอบครัวจะจัดพิธีศพแบบส่วนตัวอีกครั้งในภายหลัง พร้อมกันนั้นจะมีการลดธงครึ่งเสาที่อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ด้วย

มิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีและรัฐบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับแธตเชอร์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามเย็นบอกว่าหญิงเหล็กรายนี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก “มาร์กาเรต แธตเชอร์ คือนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่และบุคคลที่ฉลาดหลักแหลม เธอจะอยู่ในความทรงจำของเราและจะอยู่ในประวัติศาสตร์ตลอดไป” เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพกล่าว

ด้าน โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก็ยกย่องแธตเชอร์ ต่อการเป็นผู้สนับสนุนการเติบโตของอียู แม้ว่าเธอจะไว้ตัวเกี่ยวกับการรวมตัวของทวีปยุโรปก็ตาม ส่วน ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ก็ยกย่องหญิงเหล็กว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และจะจารึกไว้ในส่วนลึกของประวัติศาสตร์อังกฤษ ขณะที่จีนและญี่ปุ่น ก็ออกถ้อยแถลงสรรเสริญแธตเชอร์และแสดงความเสียใจกับประชาชนชาวอังกฤษเช่นกัน