xs
xsm
sm
md
lg

“สีจิ้นผิง” ยืนยัน “จีน” เติบโตอย่างสันติ แบ่งปันความมั่งคั่งให้ ปท.เพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กำลังกล่าวปราศรัยในการประชุมวันแรกของ เอเชียฟอรั่ม เมืองโป๋อ๋าว เกาะไหหลำ เมื่อวันอาทิตย์ (7) โดยที่จีนมุ่งจัดรายการประชุมหารือประจำปีนี้ในลักษณะของ “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม” แห่งเอเชีย
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กล่าวย้ำในวันอาทิตย์ (7) ว่า การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างสันติ จะเป็นปัจจัยอันสำคัญยิ่งในการส่งเสริมสนับสนุนการก้าวผงาดในทางเศรษฐกิจของแดนมังกร รวมทั้งในการรักษาการเติบโตให้มีความยั่งยืนตลอดทั่วทั้งเอเชีย พร้อมกันนั้นเขาก็ให้คำมั่นว่าจะส่งออกความมั่งคั่งแก่ประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

ผู้นำคนใหม่ของจีนผู้นี้ระบุว่า สันติภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของระบบเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลกรายนี้ พร้อมกับเรียกร้องเหล่าผู้นำทางธุรกิจและผู้นำทางการเมืองให้ใช้การทูตและการเจรจามาคลี่คลายข้อพิพาท กระจายความมั่งคั่ง และแก้ไขปัญหาต่างๆ

“สำหรับเอเชียแล้ว การพัฒนายังคงเป็นปัญหาที่ทรงความสำคัญที่สุด การพัฒนายังคงเป็นสิ่งที่มีทรงความสำคัญถึงขั้นเป็นตายสำหรับการแก้ไขคลี่คลายปัญหาและความขัดแย้งจำนวนมาก” สี บอกกับการประชุมฟอรั่มเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองโป๋อ๋าว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) โดยที่ปีนี้ป็นปีแรกที่ สี เข้าร่วมในฐานะประธานาธิบดีของจีน

“หากปราศจากสันติภาพ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรแล้วที่จะพูดถึงการพัฒนา” สีกล่าวต่อผู้ฟังซึ่งมีทั้งพวกผู้บริหารแวดวงธุรกิจ และเหล่าผู้นำต่างชาติ เป็นต้นว่า นายกรัฐมนตรี จูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลีย, ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง แห่งพม่า, นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ของกัมพูชา และ คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

ประธานาธิบดีจีนวาดภาพอนาคตของแดนมังกรเมื่อถึงปี 2020 ว่าจะกลายเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งยิ่งขึ้น โดยที่รายได้เฉลี่ยของประชากรทั้งในเมืองและชนบทจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวของปี 2010 ทั้งนี้เขาให้สัญญาว่า จะส่งออกความมั่งคั่งแก่บรรดาเพื่อนบ้านให้มากขึ้น

สีแจกแจงว่า จีนจะนำเข้าสินค้าในระดับปีละ 10 ล้านล้านดอลลาร์ ในเวลา 5 ปีนับจากนี้ รวมทั้งไปลงทุนนอกประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่การบริโภคภายในจีน โดยเฉพาะการบริโภคในภาคการค้าปลีก จะยังคงขยายตัวต่อไป

ทั้งนี้ ในปี 2012 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าสินค้าและบริการรวมเป็นมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเพียง 4.3% เนื่องจากเศรษฐกิจของแดนมังกรชะลอตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 13 ปี

แต่ สี แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคต โดยเขากล่าวว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตต่อไปอีก จากการที่รัฐบาลของเขาดำเนินการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเศรษฐกิจและระบบการเงิน อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้อธิบายรายละเอียดแต่อย่างใด

เขาเพียงแต่สำทับว่า เศรษฐกิจแดนมังกรจะยังคงประคับประคองอัตราเติบโตที่ดีเอาไว้ได้ อีกทั้งจะเดินหน้าดำเนินการปฏิรูปตลอดจนฝ่าฟันก้าวไปตามเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของตนเอง ซึ่งแตกต่างตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในสภาพแห่งการฟื้นตัวอย่างยากลำบาก โดยที่ต้องเผชิญความเสี่ยงหลายอย่างหลายประการ

ข้อความของ สี เกี่ยวกับการที่จีนจะก้าวผงาดขึ้นมาอย่างสันติและทำให้ประเทศอื่นๆ ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นนี้ ได้รับการตอกย้ำก่อนหน้านี้เช่นกัน ในระหว่างการพบปะหารือกันของพวกผู้บริหารอาวุโสจากรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ ของแดนมังกร 10 กว่าราย กับเหล่าผู้บริหารระดับท็อปของธนาคารและบริษัทแดนจิงโจ้

แอนดริว ฟอร์เรสต์ ผู้ก่อตั้งฟอร์เทสคิว เมทัลส์ กรุ๊ป บริษัทเหมืองแร่เหล็กของออสเตรเลีย และเป็นประธานของการประชุมหารือแบบปิดประตูห้องคุยกันคราวนี้ เปิดเผยว่า พวกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจีนต้องการให้ออสเตรเลียรู้ว่า จีนไม่ใช่ประเทศที่มุ่งขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจหรือก้าวร้าว

“พวกเขาไม่เข้าใจว่า ทำไมประเทศอื่นๆ จึงไม่มองจีนแบบเป็นมิตร” ฟอร์เรสต์กล่าว
ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องความมั่นคงกำลังทำให้หลายประเทศขัดขวางหรือบ่อนทำลายการขยายตัวไปในต่างประเทศของพวกบริษัทขนาดใหญ่ของจีน เป็นต้นว่า หัวเหว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และ ซีนุก รัฐวิสาหกิจยักษ์ด้านน้ำมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น