xs
xsm
sm
md
lg

“ไซปรัส” รอดพ้นล้มละลายหวุดหวิด ต้องสังเวยแบงก์อันดับ 2 แลกเงินกู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - ไซปรัสได้รับเงินกู้ฉุกเฉิน 10,000 ล้านยูโร โดยแลกเปลี่ยนกับการยอมปฏิรูปภาคธนาคารของตนอย่างรุนแรง ในการทำความตกลงกับพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศได้อย่างหวุดหวิดก่อนถึงกำหนดเส้นตาย เพื่อช่วยรักษาประเทศเกาะแห่งนี้ไม่ให้จมถลำสู่ภาวะล้มละลาย อีกทั้งป้องกันไม่ให้ความปั่นป่วนวุ่นวายขยายลุกลามออกไปทั่วทั้งเขตยูโรโซน

ตามข้อตกลงคราวนี้ ไซปรัสต้องยอมปิดกิจการ ป็อปปูลาร์ แบงก์ ออฟ ไซปรัส หรือ ไลคี ธนาคารอันดับ 2 ของประเทศในทันที และโอนบัญชีเงินฝากที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100,000 ยูโรให้แก่แบงก์ ออฟ ไซปรัส แบงก์อันดับ 1 เพื่อก่อตั้ง “ธนาคารสินทรัพย์ดี”

ขณะเดียวกัน บัญชีเงินฝากของทั้ง 2 แบงก์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 100,000 ยูโร ซึ่งมิได้รับการค้ำประกันตามกฎหมายของสหภาพยุโรป (อียู) นั้น จะถูกแช่แข็งเอาไว้ และถูกนำมาใช้เพื่อคลี่คลายภาระหนี้สินของ ไลคี ตลอดจนเพื่อการเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ แบงก์ ออฟ ไซปรัส โดยผ่านกระบวนการแปลงเงินฝากให้เป็นหลักทรัพย์

คริสตอส สตีเลียนิเดส โฆษกรัฐบาลไซปรัส เมื่อถูกสอบถามว่า คาดหมายว่าผู้ฝากเงินเกิน 100,000 ยูโร ในแบงก์ ออฟ ไซปรัส น่าจะได้รับความเสียหายสักเท่าใด เขาก็ตอบว่า คงจะต่ำกว่าหรืออยู่ในราวๆ 30%

ประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส แห่งไซปรัส ใช้เวลาต่อรองกับพวกผู้นำของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศทั้ง 3 หรือ “ทรอยกา” ซึ่งประกอบด้วยอียู, ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงตั้งแต่ค่ำวันอาทิตย์ (24) จนถึงเช้ามืดวันจันทร์ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายเพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลายของระบบการเงินการธนาคารเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยที่มีรายงานว่ามีอยู่ระยะหนึ่งของการเจรจาต่อกรองกันคราวนี้ เขาถึงกับแสดงท่าทีว่าจะลาออกจากตำแหน่ง หากถูกบีบคั้นมากเกินไป

อนาสตาเซียเดสกล่าวภายหลังที่ตกลงกันได้ว่า เขา “พอใจ” กับผลที่ออกมา
ประชาชนชาวไซปรัสยังแห่ถอนเงินออกจากธนาคารอย่างต่อเนื่อง
ขณะ เจอโรน ดิสเซลโบลม (Jeroen Dijsselbloem) ประธานของกลุ่มยูโรกรุ๊ป (กลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน) คาดหมายว่า การอายัดเงินฝากส่วนที่เกิน 100,000 ยูโรในแบงก์ไลคี น่าจะระดมะเงินได้ 4,200 ล้านยูโรป เขายืนยันด้วยว่า ข้อตกลงคราวนี้เป็นการปิดฉากความไม่แน่นอนซึ่งส่งผลกระทบกระเทือนไซปรัสและยูโรโซนโดยรวมในช่วงระยะเวลาไม่กี่วันก่อนหน้านี้

ข้อตกลงนี้ทำให้ผู้ฝากเงินในไซปรัสที่มีเงินในบัญชีไม่ถึง 100,000 ยูโรทั้งหมด ไม่ได้รับความเสียหายอะไร แต่พวกที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด นอกจากพนักงานหลายพันคนของธนาคาร ไลคี ที่ต้องตกงานแล้ว ก็คือพวกผู้ฝากเงินรายใหญ่ในแบงก์ใหญ่ทั้ง 2 ตลอดจนนักลงทุนที่ถือหุ้นและหุ้นกู้ของไลคี โดยที่คนเหล่านี้จำนวนมากเลยคือชาวรัสเซีย

ทั้งนี้ นักลงทุนชาวรัสเซียเป็นผู้ถือครองบัญชีเงินฝากและบัญชีการลงทุนทั้งที่เป็นบัญชีภาคเอกชนและบัญชีบริษัทรวมกันแล้วเป็นมูลค่าประมาณ 31,000 ล้านดอลลาร์ (24,000 ล้านยูโร) นอกจากนั้น รัฐบาลรัสเซียยังได้ให้เงินกู้แก่ไซปรัส 2,500 ล้านยูโร โดยที่ไซปรัสกำลังวาดหวังว่ารัสเซียจะผ่อนผ่อนผันเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้ก้อนนี้

ในกรุงมอสโก ปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการแรกสุดภายหลังการประกาศข้อตกลงระหว่างไซปรัสกับพวกเจ้าหนี้ทรอยกาในครั้งนี้ มาจากนายกรับมนตรีดมิตริ เมดเวเดฟ ซึ่งกล่าวว่า “เรากำลังพิจารณาไตร่ตรองว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปในระยะยาว มันจะมีผลสืบเนื่องต่อระบบการเงินและระบบเงินระหว่างประเทศอย่างไร ตลอดจนต่อผลประโยชน์ของเราเองอย่างไร”

ทรอยกานั้นกำหนดให้ไซปรัสต้องระดมเงินจากภาคการธนาคารให้ได้ 5,800 ล้านยูโร แลกเปลี่ยนกับการรับเงินกู้ 10,000 ล้านยูโร โดยไซปรัสจะได้รับเงินกู้ฉุกเฉินก้อนแรกในเดือนพฤษภาคม

เงื่อนไขรับเงินกู้ยังครอบคลุมมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลไซปรัส การแปรรูปกิจการรัฐ และการเปลี่ยนแปลงมาตรการภาษี ในภาวะที่การถดถอยรุนแรงนำไปสู่การปลดพนักงานของธนาคารและบริษัทต่างๆ ที่สูญเสียเงินฝาก

ออลลี เรห์น กรรมาธิการเศรษฐกิจยุโรป เสริมว่าจำเป็นต้องคาดการณ์เศรษฐกิจไซปรัสใหม่โดยเร็ว และว่ารัฐบาลไซปรัสจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะยกเลิกมาตรการในการควบคุมเงินทุนเมื่อใด

ทางด้านคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นแผนการที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือ ซึ่งแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของระบบการธนาคารของไซปรัส อันจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสนับสนุนการเติบโต

ขณะเดียวกัน ความที่ธนาคารในไซปรัสปิดให้บริการมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แบงก์ชาติไซปรัสจึงได้รับอำนาจให้จำกัดการถอนเงินฝากจากตู้กดเงินสดอัตโนมัติของสองแบงก์ใหญ่สุดของประเทศได้ไม่เกินวันละ 100 ยูโรต่อบัญชี

ทางด้านปิแอร์ มอสโกวิชี รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าอียูบีบคั้นไซปรัส โดยบอกว่า สาเหตุที่แท้จริงมาจากความล้มเหลวของรูปแบบธุรกิจแบงก์ออฟชอร์ของประเทศเกาะแห่งนี้

ภาคการธนาคารของไซปรัสที่มีสินทรัพย์มากกว่าเศรษฐกิจถึง 4 เท่า ประสบปัญหาหนักจากการปล่อยกู้ให้กรีซ ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้เอกชนขาดทุนถึง 75% เมื่อปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้อีซีบียื่นคำขาดว่า หากปราศจากข้อตกลงภายในวันจันทร์ จะตัดเงินกู้ฉุกเฉินที่ให้กับธนาคารไซปรัส ทำให้แบงก์บางแห่งมีสิทธิ์ล่ม และไซปรัสอาจหลุดจากยูโรโซน
กำลังโหลดความคิดเห็น