เอเจนซีส์ - รัฐสภาไซปรัสผ่านชุดกฎหมายปฏิรูปเพื่อสร้างรายได้ภาครัฐเพิ่ม ตามเงื่อนไขรับเงินช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) วานนี้ (22)
สมาชิกรัฐสภาไซปรัสผ่านร่างกฎหมายทางการเงินรวม 9 ฉบับ รวมถึงกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับซึ่งว่าด้วยการปฏิรูประบบธนาคารที่กำลังขาดทุนย่อยยับจากปัญหาหนี้เสียของกรีซ, การตั้งข้อจำกัดด้านธุรกรรมทางการเงิน และการจัดตั้ง “กองทุนเอกภาพ” (solidarity fund) เพื่อรวบรวมทรัพย์สินของภาครัฐก่อนจะมีการออกพันธบัตรฉุกเฉิน และให้อำนาจรัฐบาลในการควบคุมเงินทุนของธนาคาร
สำหรับกฎหมายอื่นๆที่จะช่วยให้รัฐบาลสร้างรายได้เพิ่มถึง 5,800 ล้านยูโรตามเงื่อนไขวงเงินช่วยเหลือ จะถูกนำเข้าพิจารณาในสภาภายในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเรียกเก็บภาษีไม่ถึง 1% จากทุกบัญชีเงินฝากธนาคาร
การอนุมัติร่างกฎหมายจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากรัฐสภาไซปรัสปฏิเสธแผนเรียกเก็บภาษีสูงสุดถึง 10% จากบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งสร้างความอึดอัดคับแค้นแก่พลเมืองไซปรัสที่มองว่ารัฐบาลกำลัง “ยึด” เงินออมของพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่บรรดานักการเมืองก็เห็นว่า การทำเช่นนั้นจะบ่อนทำลายสถานะการคลังของประเทศอย่างไม่อาจกู้คืนได้
อย่างไรก็ตาม ชาวไซปรัสบางคนยังยินดีที่จะอุทิศเงินบางส่วนที่พวกเขาสะสมมาทั้งชีวิต เพื่อกอบกู้วิกฤตการเงินของชาติ
“ถ้ายุโรปจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือธนาคารของเรา ผมก็ไม่มีปัญหากับเรื่องภาษีเงินฝาก... แต่ขอให้เป็นข้อเรียกร้องจากยุโรป ไม่ใช่จากรัฐบาลเท่านั้น” ปาปานิโกลาอู ชายชราวัย 64 คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์
ประธานาธิบดี นิกอส อนาสตาเซียเดส จะเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ในวันนี้(23) เพื่อเสนอแผนสร้างรายได้ที่ปรับปรุงใหม่ต่อว่าที่เจ้าหนี้ ซึ่งก็คือประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรทั้งหมด และ ไอเอ็มเอฟ
ยูรโซนและไอเอ็มเอฟตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลไซปรัสหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มถึง 5,800 ล้านยูโร ก่อนที่จะยอมอนุมัติวงเงินช่วยเหลือ 10,000 ล้านยูโรเพื่อกู้สถานะทางการคลังของเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้