“ตอลิบาน” ประกาศจะส่งอดีต ปธน.เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ “ลงนรก” หากกลับปากีสถาน

รอยเตอร์ - กลุ่มติดอาวุธตอลิบานในปากีสถานขู่จะส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายและหน่วยแม่นปืนออกไล่ล่าเอาชีวิตอดีตประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ หลังจากเขาเดินทางกลับบ้านเกิดในวันพรุ่งนี้ (24) เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม

จากคลิปวิดีโอของกลุ่มตอลิบาน อัดนาน ราชีด ซึ่งเคยมีส่วนในแผนลอบสังหาร มูชาร์ราฟ มาแล้วหลายครั้ง เตือนว่า “บรรดามุญาฮิดีนแห่งอิสลามได้เตรียมหน่วยสังหารพิเศษไว้ส่ง มูชาร์ราฟ ไปลงนรกแล้ว มีทั้งมือระเบิดพลีชีพ, หน่วยแม่นปืน, หน่วยโจมตีพิเศษ และทีมต่อสู้ระยะประชิด”

อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ก่อความแค้นครั้งใหญ่ต่อกลุ่มตอลิบาน โดยนำปากีสถานเข้าสู่สงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายร่วมกับสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ซึ่งนำไปสู่การกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธครั้งใหญ่บนแผ่นดินปากีสถาน

มูชาร์ราฟ มีกำหนดเดินทางกลับปากีสถานในวันพรุ่งนี้ (24) หลังจากหลบหนีไปใช้ชีวิตในดูไบ และลอนดอน นานร่วม 4 ปี และจะกลับมาชิงอำนาจทางการเมืองอีกครั้งในการเลือกตั้งรัฐสภาซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้

มูชาร์ราฟ ปฏิวัติยึดอำนาจในปี 1999 และลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2008 หลังพันธมิตรของเขาพ่ายเลือกตั้ง และรัฐบาลใหม่ขู่จะฟ้องเอาผิดเพื่อขับเขาออกจากตำแหน่ง มูชาร์ราฟ ตัดสินใจเดินทางออกจากปากีสถานในปีถัดมา

อดีตนายพลสี่ดาวผู้นี้เสี่ยงที่จะถูกจับกุมในข้อหาไม่ให้การคุ้มครองอย่างเพียงพอต่ออดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เบนาซีร์ บุตโต ซึ่งถูกลอบสังหารในปี 2007 รวมถึงความผิดในอดีตอีกหลายคดี แต่สิ่งที่น่าหวั่นเกรงสำหรับ มูชาร์ราฟ มากที่สุดในเวลานี้ก็คือกลุ่มตอลิบาน ซึ่งหมายแก้แค้นอดีตผู้นำประเทศที่เลือกข้างสหรัฐฯ

กลุ่มตอลิบานคั่งแค้นที่สุด เมื่อ มูชาร์ราฟ สั่งให้กองกำลังความมั่นคงปากีสถานบุกเข้าไปกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงภายในมัสยิดแดง (Red Mosque) ในกรุงอิสลามาบัดเมื่อปี 2007 หลังจากที่พวกเขาไม่ยอมจำนนต่อรัฐ

รัฐบาลปากีสถานระบุว่า มีกลุ่มหัวรุนแรงถูกสังหารไป 102 รายจากปฏิบัติการดังกล่าว

เอียะห์ซานุลเลาะห์ เอียะห์ซาน โฆษกตอลิบาน ประกาศผ่านคลิปวิดีโอชิ้นเดียวกันนี้ว่า “ตอลิบานปากีสถานพร้อมจะต่อสู้กับฟาโรห์ผู้นี้ หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะให้มารตนนี้ได้ลิ้มรสสิ่งที่มันควรได้รับ และให้ความสำราญแก่เหยื่อที่มัสยิดแดง”

ทั้งนี้ ยังไม่แน่นักว่า มูชาร์ราฟ จะสามารถฟื้นอิทธิพลของเขาในปากีสถานได้สำเร็จหรือไม่ เมื่อผู้สมัครคู่แข่งมีทั้งอดีตนายกฯ นาวาซ ชารีฟ ซึ่งเคยถูก มูชาร์ราฟ นำทหารเข้าปฏิวัติยึดอำนาจ และอดีตนักคริกเก็ตผู้ผันตัวเองสู่เส้นทางการเมืองอย่าง อิมรอน ข่าน

มูชาร์ราฟ ทุ่มเงินสนับสนุนพรรคการเมืองของเขา และพยายามขอให้ซาอุดีอาระเบียช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่งด้วย ทว่าอุปสรรคสำคัญก็คือ เขาห่างหายจากการเมืองปากีสถานไปนาน และทุกวันนี้ก็มีกระแสเรียกร้องจากภาคประชาชนที่เหนื่อยหน่ายการทุจริตคอร์รัปชัน, วงจรความยากจน และปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน

หลังเดินทางออกจากบ้านเกิด มูชาร์ราฟ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในย่านคนร่ำรวยของดูไบ