เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พลเอกเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตประธานาธิบดีและผู้บัญชาการกองทัพวัย 69 ปีของปากีสถานเดินทางกลับประเทศแล้วในวันอาทิตย์ (24) ปิดฉากการลี้ภัยนาน 4 ปีในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ โดยการเดินทางกลับปากีสถานของมูชาร์ราฟมีขึ้นท่ามกลางคำขู่ของกลุ่มตอลิบานที่ประกาศจะส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายและหน่วยแม่นปืนออกไล่ล่าเอาชีวิตอดีตผู้นำปากีสถานรายนี้
รายงานข่าวระบุว่า อดีตนายพล 4 ดาวแห่งกองทัพปากีสถาน ที่เคยครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 10 ของประเทศระหว่างปี 2001-2008 ได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาลงจอดยังสนามบินในนครการาจีของปากีสถานแล้วในวันอาทิตย์ (24) หลังลี้ภัยออกนอกประเทศไปนานกว่า 4 ปี ท่ามกลางการรอต้อนรับของกลุ่มผุ้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง โดยการเดินทางกลับประเทศครั้งนี้ของมูชาร์ราฟ มีเป้าหมายเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤษภาคมนี้
ก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลิบานในปากีสถานขู่จะส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายและหน่วยแม่นปืนออกไล่ล่าเอาชีวิตอดีตประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ หลังจากเขาเดินทางกลับบ้านเกิด โดยคลิปวิดีโอของกลุ่มตอลิบานที่เพิ่งถูกเผยแพร่ล่าสุดแสดงให้เห็น อัดนาน ราชีด ซึ่งเคยมีส่วนในแผนลอบสังหาร มูชาร์ราฟ มาแล้วหลายครั้ง ได้ขู่ว่า ทางกลุ่มตอลิบานเตรียมหน่วยสังหารพิเศษซึ่งมีทั้งมือระเบิดพลีชีพ หน่วยแม่นปืน หน่วยโจมตีพิเศษ และทีมต่อสู้ระยะประชิด สำหรับเอาชีวิตมูชาร์ราฟ เพื่อแก้แค้นที่อดีตประธานาธิบดีผู้นี้นำปากีสถานเข้าสู่สงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายร่วมกับสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ซึ่งนำไปสู่การกวาดล้างนักรบตอลิบานครั้งใหญ่ รวมถึงความแค้นสะสมจากการที่มูชาร์ราฟสั่งให้กองกำลังความมั่นคงปากีสถานบุกเข้าไปกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงภายใน มัสยิดแดง (Red Mosque) ในกรุงอิสลามาบัดเมื่อปี 2007 เป็นเหตุให้พวกตอลิบานถูกสังหารไป 102 ราย
ทั้งนี้ มูชาร์ราฟตั้งเป้าจะกลับมาชิงอำนาจทางการเมืองอีกครั้งในการเลือกตั้งรัฐสภาซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ แม้ต้องเผชิญคำขู่ของกลุ่มตอลิบาน ขณะเดียวกัน ยังสุ่มเสี่ยงที่จะถูกจับกุมในข้อหาไม่ให้การคุ้มครองอย่างเพียงพอต่ออดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เบนาซีร์ บุตโต ซึ่งถูกลอบสังหารในปี 2007 รวมถึงความผิดในอดีตอีกหลายคดี