เอเอฟพี - ผู้นำเครือข่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งร่วมประชุมกันที่กรุงโดฮา มีมติรับหลักการที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด วันนี้ (11) หลังผ่านการเจรจาที่ยืดเยื้อ และยังต้องเผชิญแรงกดดันจากประเทศต่างๆ ที่หนุนหลังฝ่ายกบฏอยู่
ข้อสรุปเบื้องต้นประกอบด้วยการเสนอให้แต่งตั้งรัฐบาลผ่องถ่ายอำนาจ, สภาทหารซึ่งจะกำกับดูแลกองกำลังกบฏในสนามรบ และฝ่ายตุลาการในพื้นที่ที่กบฏสามารถยึดครองไว้ได้
“เราเห็นชอบให้มีการตั้งแนวร่วมแห่งชาติซีเรียขึ้นเป็นองค์กรกลางสำหรับฝ่ายต่อต้านและปฏิวัติ เราจะพูดคุยถึงรายละเอียดอีกครั้งในวันอาทิตย์ (11)” สุไฮร์ อะตาสซี ผู้นำฝ่ายกบฏคนหนึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าที่ผ่านมา หลังสิ้นสุดการประชุมที่ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงในกรุงโดฮา
ทั้งนี้ คาดว่าการประชุมครั้งที่สองจะเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น. GMT หรือ 14.00 น. วันนี้ (11) ตามเวลาประเทศไทย
ที่กรุงดามัสกัส ออมรัน อัล-โซห์บี รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลซีเรีย ออกมาเรียกร้องวานนี้ (10) ให้กบฏยอมเข้าร่วมเวทีเจรจาแห่งชาติ พร้อมอธิบายว่า เหตุที่กองทัพซีเรียยังยืนหยัดต่อสู้ก็เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจา
“วิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาในซีเรียได้ก็คือการนั่งลงพูดคุยกัน... ฝ่ายต่อต้านต้องยอมรับทางเลือกเจรจา และที่กองทัพพยายามกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายก็เพื่อปกป้องโอกาสในการเจรจาที่ว่านี้” โซห์บีกล่าว
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งเป็นองค์กรเอียงข้างกบฏระบุว่า เหตุระเบิด 2 ระลอกที่เมืองดาราทางตอนใต้ของซีเรีย เมื่อวานนี้ (10) ทำให้ทหารเสียชีวิตไป 20 นาย และอาจมียอดตายสูงกว่านี้
“มือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนขับรถบรรทุกระเบิดเข้าไปในสมาคมทหารในเวลาห่างกันไม่กี่นาที” รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์ ระบุ
ด้านสำนักข่าวซานาของซีเรียรายงานว่า คนร้ายใช้ยานพาหนะก่อเหตุ 3 คัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 7 คน และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ระบุว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทหารหรือไม่
สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) เริ่มสูญเสียสถานะผู้แทนของฝ่ายกบฏ หลังถูกสหรัฐฯวิจารณ์ว่าเป็นเพียงองค์กรของผู้ลี้ภัยในต่างแดน และไม่ได้เป็นปากเสียงของนักรบที่ต่อสู้กับทหารอัสซาดอย่างแท้จริง
เมื่อวานนี้ (10) จอร์จ ซาบรา ซึ่งเป็นประธานเอสเอ็นซีคนใหม่ แถลงต่อสื่อที่กรุงโดฮาว่า “เอสเอ็นซี ก่อตั้งมาก่อนทุกๆ กลุ่ม...ทุกๆ ความคิดริเริ่ม” ที่นำเสนอในที่ประชุม และไม่ควรมีกบฏกลุ่มใดถูกบังคับให้ต้องต่อสู้ภายใต้ชื่อของกลุ่มอื่น