คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเห็นพ้องประณามซีเรียโจมตีเมืองชายแดนตุรกี

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเมื่อวันพฤหัสบดี (4)ประณามการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของซีเรียต่อพื้นที่แถบชายแดนของตุรกีที่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยระบุการกระทำของซีเรียซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศต้องยุติลงอย่างทันทีทันใด และต้องไม่เกิดซ้ำอีก

มติประณามซีเรียของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยถ้อยคำดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัสเซีย ซึ่งเป็นมหามิตรของรัฐบาลดามัสกัสปฏิเสธร่างเบื้องต้นของชาติตะวันตก ที่ต้องการให้ประณามซีเรียด้วยถ้อยคำที่รุนแรงยิ่งกว่านี้ โดยผู้แทนของรัสเซียในสหประชาชาติพยายามเสนอให้เปลี่ยนจาก “การประณาม” เป็น “การร้องขอ” ให้ซีเรีย และตุรกีใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันพุธ (3)

อย่างไรก็ดี ความพยายามของรัสเซียในการขัดขวางไม่ให้ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ แถลงประณามซีเรียก็ไม่เป็นผล เมื่อผู้แทนชาติตะวันตกในที่ประชุมยืนยันให้มีการประณาม ด้วยถ้อยคำที่ลดความรุนแรงลง ซึ่งรัสเซียยอมถอย และได้ให้ความเห็นชอบในที่สุด

การยอมถอยคนละก้าวของทั้งรัสเซียและผู้แทนชาติตะวันตกในคณะมนตรีความมั่นคงฯ ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่เกิดความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในซีเรีย เนื่องจากทุกมติที่เกี่ยวข้องกับการประณามหรือลงโทษรัฐบาลซีเรียในช่วงที่ผ่านมาถูกรัสเซียและจีนที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด ขัดขวางด้วยการใช้สิทธิยับยั้ง หรือ “วีโต้” มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

ทั้งนี้ ในคำแถลงประณามซีเรียของ 15 ชาติคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเรียกร้องให้ซีเรียยุติการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องไม่ปล่อยให้การกระทำที่ก้าวร้าวเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกเพื่อความมั่นคงสงบสุขของประเทศเพี่อนบ้านและภูมิภาคตะวันออกกลาง

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวทางการทูตเผยว่า บาชาร์ ญาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำสหประชาชาติ พยายามแจ้งต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ ว่า การที่รัฐบาลซีเรียยิงปืนใหญ่ใส่เมืองชายแดนของตุรกีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้ หลังเมืองอะเลปโปของซีเรียถูกโจมตีด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายหลายระลอก พร้อมระบุกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากตุรกี สหรัฐฯ ฝรั่งเศส กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย