รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน “ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี” ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด เผยในวันนี้ (3) โดยอ้างข้อมูลว่า มีผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในซีเรียไปแล้วอย่างน้อย 31,022 ราย ตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมาระบุ วิกฤตในซีเรียถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดการสูญเสียนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
รามี อับเดล เราะห์มาน แกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งมีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักรออกมาเปิดเผยว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวแบ่งเป็นพลเรือนอย่างน้อย 22,257 คน, อีกราว 7,578 รายเป็นทหาร และอีกอย่างน้อย 1,187 คนเป็นพวกที่ถูกรัฐบาลซีเรียสังหารหลังจากแปรพักตร์ ขณะเดียวกัน เฉพาะเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4,727 คน ซึ่งรวมถึง 305 คนที่ถูกสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมเมื่อ 26 กันยายน
อย่างไรก็ดี อับเดล เราะห์มานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงในซีเรียอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากยังมีศพอีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนหรือสาเหตุการเสียชีวิตได้ รวมถึงยังมีประชาชนอีกหลายพันคนที่สูญหายไปหลังถูกทางการควบคุมตัวนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานจากกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ว่า อาลี ฮุสเซน นาสซิฟ หรือ “อาบู อับบาส” แกนนำสำคัญระดับผู้บัญชาการของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ได้เสียชีวิตระหว่างการสู้รบในซีเรีย พร้อมกับนักรบของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์อีกจำนวนหนึ่ง โดยรายงานดังกล่าว ซึ่งอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเลบานอนถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับทั้งรัฐบาลอิหร่านและซีเรีย ได้ส่งนักรบของตนเข้าไปในซีเรียเพื่อช่วยสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลอัสซาด ในการกวาดล้างฝ่ายต่อต้านในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การล่มสลายของระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล อัสซาดในซีเรีย จะส่งผลร้ายต่ออนาคตของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะหากรัฐบาลใหม่ของซีเรียซึ่งเป็นพวกมุสลิมนิกายสุหนี่ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้ขึ้นครองอำนาจ ดังนั้นกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ซึ่งนับถือนิกายชีอะห์ เช่นเดียวกับอิหร่านและรัฐบาลซีเรียชุดปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ บาชาร์ อัล อัสซาด ได้ครองอำนาจต่อไป