รอยเตอร์/เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) หนึ่งในองค์กรที่มีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด เผยวันนี้ (6) ว่า นายกรัฐมนตรีริอัด ฮิญาบ ของซีเรีย พร้อมสมาชิกในครอบครัว รวมถึงรัฐมนตรีอีก 2 ราย และเจ้าหน้าที่กองทัพซีเรียอีก 3 นายได้แปรพักตร์และเดินทางหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างจอร์แดนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ (5) ที่ผ่านมา ถือเป็นความสูญเสียล่าสุดที่เกิดขึ้นกับระบอบการปกครองแบบกฎเหล็กของผู้นำซีเรีย ขณะที่เจ้าตัวออกมาแถลงผ่านโฆษกโดยยืนยันต้องแปรพักตร์เพราะไม่อาจทนทำงานรับใช้ระบอบการปกครองที่เข่นฆ่าประชาชนได้อีกต่อไป
รายงานข่าวซึ่งอ้างคาหลิด ไซน์ อัล อะเบดิน สมาชิกของเอสเอ็นซีระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮิญาบ พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว รวมถึง บุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรีอีก 2 ราย และเจ้าหน้าที่กองทัพซีเรียอีก 3 นาย ได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ผ่านทางการประสานงานกับเครือข่ายของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย และในขณะนี้ทั้งหมดได้ข้ามเข้าไปขอลี้ภัยในจอร์แดน
ขณะที่ฮิญาบออกมาเปิดเผยผ่านโฆษกส่วนตัวในวันนี้ (6) ที่กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน ว่า ตัวเขาซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจแปรพักตร์เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย และหันมาสนับสนุนการต่อสู้เพื่อโค่นอำนาจของผู้นำซีเรีย เพราะไม่อาจทนทำงานรับใช้ระบอบการปกครองที่เข่นฆ่าประชาชน และมีพฤติกรรมเยี่ยงผู้ก่อการร้ายของประธานาธิบดีอัสซาดได้อีกต่อไป
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีฮิญาบซึ่งเคยทำหน้าที่รัฐมนตรีเกษตรของซีเรียมาก่อนได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยทางการซีเรียได้แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีโอมาร์ กาลาวันญิ เข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ ฮิญาบไม่เพียงแต่เป็นบุคคลที่ประธานาธิบดีอัสซาดให้ความไว้วางใจจนมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้เท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในแกนนำระดับสูงของพรรคบาธที่ปกครองซีเรียมาอย่างยาวนาน โดยการแปรพักตร์ครั้งนี้คาดว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้นำซีเรียสั่งการให้กองกำลังความมั่นคงระดมโจมตีเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฮิญาบนานต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เพื่อกวาดล้างฝ่ายต่อต้าน เป็นเหตุให้มีพลเรือนรวมถึงเด็กและสตรีในเมืองดังกล่าวถูกสังหารเป็นจำนวนมาก