xs
xsm
sm
md
lg

“ซาร์ดารี” ชี้ปากีสถานเจ็บปวดพอแล้ว-วอนทั่วโลกอย่าบีบให้ต่อสู้ “ก่อการร้าย” มากกว่านี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี อาซิฟ อาลี ซาร์ดารี แห่งปากีสถาน ปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ วานนี้(25) โดยวางรูปถ่ายนางเบนาซีร์ บุตโต ผู้เป็นภริยา ไว้ข้างๆ
เอเอฟพี - ประธานาธิบดี อาซิฟ อาลี ซาร์ดารี แห่งปากีสถาน ประกาศผ่านที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติเมื่อวานนี้ (25) ว่า ประเทศของเขาต้องเจ็บปวดกับสงครามต่อต้านก่อการร้ายมากพอแล้ว และไม่ควรถูกบีบคั้นให้ต้องทำอะไรมากไปกว่านี้อีก

ผู้นำปากีสถานกล่าวว่า “ไม่มีประเทศใดหรือกลุ่มชนใดต้องทุกข์ทรมานกับสงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายมากเท่าปากีสถาน”

“สำหรับบางคนที่กล่าวหาว่าเราไม่พยายามมากพอ ผมใคร่ขอร้องว่า กรุณาอย่าดูหมิ่นความทรงจำของชาวปากีสถานที่เสียชีวิต และความเจ็บปวดของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่าขอให้ประชาชนของผมทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครขอจากพลเมืองชาติอื่นๆ มาก่อน”

“อย่าทำให้ผู้หญิงและเด็กปากีสถานที่บริสุทธิ์ต้องกลายเป็นปีศาจ และกรุณาหยุดขอร้องให้เรา “ทำมากกว่านี้” เสียที”

บทปราศรัยของซาร์ดารี ต่อที่ประชุมยูเอ็นเริ่มด้วยการประณามภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสนาอิสลามซึ่งถ่ายทำในสหรัฐฯ ตลอดจนภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของชาวมุสลิมซึ่งตีพิมพ์ลงนิตยสารฝรั่งเศส และยังขอร้องให้ทั่วโลกร่วมกันแบนสื่อจาบจ้วงเหล่านี้

หลังจากนั้น ซาร์ดารีซึ่งยืนปราศรัยเคียงข้างรูปนางเบนาซีร์ บุตโต ภริยาซึ่งถูกกลุ่มอิสลามิสต์ลอบสังหาร ได้กล่าวปกป้องความพยายามของชาวปากีสถานในการทำสงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย

เขาระบุว่า การที่สหรัฐฯ ส่งโดรนเข้าไปโจมตีเป้าหมายต่างๆในปากีสถาน ทำให้อิสลามาบัดยากที่จะโน้มน้าวใจประชาชนให้ร่วมต่อต้านกลุ่มก่อความไม่สงบได้ นอกจากนี้ยังพบปัญหาการนำเข้ายาเสพติดจากอัฟกานิสถานมากขึ้นนับตั้งแต่สหรัฐฯนำทหารนาโตเข้าไปปฏิบัติภารกิจในดินแดนดังกล่าว

“ทุกวันนี้มีผู้ตั้งคำถามมากมายต่อปากีสถาน... ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อตอบคำถามเหล่านั้น เพราะประชาชนปากีสถานเป็นผู้ตอบแล้ว นักการเมืองปากีสถานก็ได้ตอบแล้ว และทหารปากีสถานก็ตอบแล้วเช่นกัน” ซาร์ดารีกล่าว

“ตำรวจและทหารปากีสถานสละชีพไปกว่า 7,000 นาย ประชาชนอีก 37,000 คน... และผมคงไม่ต้องเตือนให้มิตรทั้งหลายในที่นี้ตระหนักว่า ผมเองก็มีแผลในใจเป็นการส่วนตัวเช่นกัน”

ปากีสถานเป็นแหล่งซ่องสุมอิสลามิสต์หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นตอลิบานที่ต่อสู้อยู่ตามตะเข็บชายแดนอัฟกานิสถาน, ผู้ก่อความไม่สงบในประเทศ หรือกลุ่มมุสลิมที่ต้องการแยกดินแดนแคชเมียร์ออกจากอินเดีย

ปฏิบัติการบุกน่านฟ้าปากีสถานของหน่วยรบพิเศษซีลส์เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2011 ซึ่งทำให้ อุซามะห์ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ถูกปลิดชีพคาบ้านพัก ทำให้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่า อิสลามาบัดและกองทัพอาจจงใจช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้าย แต่ ซาร์ดารี ก็ปฏิเสธอย่างแข็งขัน และกล่าวโทษปัญหาภายในที่มีต้นตอจากการปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหารนานหลายสิบปี

“ผมยังจำวันที่ผู้นำเผด็จการเหล่านั้นเดินบนพรมแดงได้... คนพวกนี้เป็นผู้บ่อนทำลายสถาบันต่างๆและระบอบประชาธิปไตยของปากีสถาน” ซาร์ดารีกล่าว

“ผมยังจำวันที่ผู้นำซึ่งมาจากการเลือกตั้งถูกจำคุก ผมจำได้ดีถึงช่วงเวลา 12 ปีที่ผมต้องใช้ชีวิตในเรือนจำ และจำได้ด้วยว่า ประชาคมโลกเคยมอบเงินนับพันๆล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนระบอบเผด็จการเหล่านั้น”

“โครงสร้างสังคมและตัวตนของประเทศผมถูกเปลี่ยนแปลงไปมาก ปากีสถานในวันนี้คือผลผลิตของรัฐบาลเผด็จการ”
กำลังโหลดความคิดเห็น