นายกฯ โยน ปคอป.ดูรายละเอียดผล คอป. ชี้โจกแดงไม่เห็นด้วยเป็นสิทธิ์ ยันต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่วิจารณ์ บอกต้องใช้เวลาพูดคุยให้คนยอมรับ เลี่ยงตอบยูเอ็นหนุน ปัดปรับ ครม. ถามข่าวจากไหน ลั่นต้องทำในเมืองไทย อ้างจำนำข้าวไม่ได้ขายแข่งกับเอกชน ย้ำเป็นนโยบายรัฐต้องเดินต่อ ไล่มาประมูลซื้อได้ อ้อนเห็นใจชาวนา
วันนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนไม่ยอมรับผลรายงายของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ว่า คงต้องเอาผลนี้ไปหารือในรายละเอียดเพราะจริงๆ แล้วในส่วนของ คอป.เรามีคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ที่จะเข้าไปดูในรายละเอียดเพราะบางครั้งการเขียนผลมาถือเป็นข้อแนะนำ ข้อเสนอ แต่ส่วนทีเกี่ยวข้องคงต้องไปดูเรื่องของแนวทางปฏิบัติ และการทำงานมากกว่า ต้องให้เวลาซึ่งกันและกันในการทำความเข้าใจ และต้องค่อยๆดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยควรจะปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเดินไปตามกลไกที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ เพราะจะดีกว่าการออกมาแสดงการไม่ยอมรับ นายกฯ กล่าวว่า อันนี้คือความคิดเห็นเราถือว่าในแง่สิทธิเสรีภาพสามารถให้ความคิดเห็นกันได้ แต่การปฏิบัติต้องลงไปในขั้นตอนของการปฏิบัติ และเรื่องของผลจริงๆต้องว่าไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย ที่จะพิจารณาไปตามขั้นตอน บางอย่างอาจเป็นเรื่องข้อเสนอ ซึ่งในทางปฏิบัติต้องให้ผู้รับดำเนินการแต่ละเรื่องนำไปทำงาน ซึ่งถือเป็นแนวทางที่เขาต้องนำไปพิจารณาในขันตอนปฏิบัติอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ในส่วนตัวนายกฯยอมรับได้กับรายงานของ คอป.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ดิฉันเองยังไม่ขอให้ความเห็น เพราะเราถือว่าข้อแนะนำต่างๆ อะไรที่เราทำได้เราก็ยินดีทำ แต่เราต้องพูดว่าจุดมุ่งหมายที่ทุกคนอยากเห็นคือความสงบสุขและการยอมรับ ฉะนั้นตรงนี้คือขั้นตอนหนึ่งของข้อเสนอ แต่การจะทำให้คนยอมรับต่างๆ ต้องให้เวลาในการพูดคุยและให้คนปฏิบัติลงไปทำงานเพื่อให้แผนนั้นเกิดขึ้นจริง เราอยากทำในขั้นตอนนั้นมากกว่า ดังนั้นต้องให้กลไกคณะกรรมการไปทำความเข้าใจและหารือดูว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการทำงาน”
เมื่อถามว่า ทางสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ออกมาแสดงความชื่นชมรายงานของ คอป.และแนะนำให้รัฐบาลนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปดำเนินการ นายกฯ กล่าวย้ำว่า เราต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องทำความเห็นขึ้นมา อันไหนที่ปฏิบัติได้เรายินดีอยู่แล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่สหรัฐอเมริกา โดยย้อนถามว่า “ข่าวจากไหน ตัวเองยังไม่รู้เลย” เมื่อถามต่อว่ามีกระแสข่าวจากแดนไกล นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่ายังไม่มี เมื่อถามว่าช่วงเวลาไหนจึงจะเหมาะสม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าเดี๋ยวแจ้งให้อีกทีหนึ่งถ้ามีเวลาเหมาะสมจะแจ้ง ทุกอย่างการปรับ ครม.อยู่ที่นี่ ที่เมืองไทย เมื่อถามว่า ดูการทำงานของรัฐมนตรีถึงเวลาปรับหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า เอาอีกแล้ว เราทำงานดูแลเรื่องอุทกภัยกันดีกว่า
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จะยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ระงับและให้รัฐบาลยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพราะเป็นโครงการที่ตั้งมาแข่งทำธุรกิจกับเอกชนว่า วัตถุประสงค์ของโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ต้องการดูแลรายได้ของเกษตรกรในเรื่องของราคาข้าว ภาครัฐไม่มีเจตนาในการที่จะขายแข่งกับภาคเอกชน และเราเองไม่ได้ทำโครงการรับจำนำข้างเพื่อแสวงหากำไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา แต่ข้อห่วงใยข้อติติงต่างๆ ยินดีที่จะรับไปปรับปรุงในครั้งหน้า ทั้งนี้ได้ฝากข้อห่วงใยของแต่ละหน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจากการที่เรามีการตรวจสอบเองก็ได้แจ้งกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้คณะกรรมการปรับปรุงพัฒนาให้เป็นรูปแบบที่ดีขึ้น และลดข้อห่วงใยต่างๆ ลงไป เมื่อถามว่า ภาคเอกชนเดือดร้อนจากโครงการรับจำนำข้าว นายกฯ กล่าวว่า จริงแล้วภาคเอกชน สามารถมาประมูลชื้อได้ ต้องอยู่ที่ราคามากกว่า ในราคาที่พึงพอใจ วันนี้เราพยายามจะดูแลเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกร ฉะนั้น กลไกต่างๆ จะเป็นลักษณะที่ภาครัฐมีส่วนหนึ่งในการตั้งราคารับจำนำ แต่เอกชนก็มีสิทธิ์ในการไปซื้อตรง กับเกษตรได้อยู่แล้ว ซึ่งอันนี้แล้วแต่
เมื่อถามว่า เอกชนสะท้อนรัฐบาลตั้งราคารับจำนำสูงจะมีชาวนาที่ไหนไปขายให้เอกชน เหมือนเป็นการตัดหน้าภาคเอกชน นายกฯ กล่าวว่า เราเชื่อว่าสักพักกลไกต่างๆ ราคาจะกลับไป ขอเรียนว่าต้องเห็นใจทางเกษตรกรด้วย อย่างในเรื่องราคารับจำนำ จริงๆแล้วราคาข้าวของเราเป็นข้าวที่ดีที่สุด ถ้าเทียบกับราคาเพื่อนบ้านราคาข้าวของเราต้องการพัฒนาในส่วนนี้ด้วย ฉะนั้นต้องขอความเห็นใจภาคเอกชน จริงๆ แล้วรัฐยินดีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และเราเองคงต้องเข้าไปทำความเข้าใจ และลงไปดูแลในส่วนภาคเอกชนว่ามีปัญหากระทบอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า ลำบากใจหรือไม่ ทำให้อีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายเป็นปัญหากับนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอเรียนว่านโยบายแต่ละอย่างไม่สามารถมีนโยบายเดียวที่จะตอบโจทย์ กับทุกๆคนได้ วันนี้เราต้องบอกว่าเราเองอยากดูแลทุกส่วน และวันนี้เกษตรกรเหมือนเป็นสันหลังของประเทศที่จะต้องได้รับการดูแลและเป็นคนส่วนมาก สำหรับภาคเอกชนเราก็มีความเห็นใจ อย่างไรก็ตามจะให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปทำความเข้าใจ และดูว่าปัญหาภาคเอกชนนั้นเราจะช่วยเหลือกันได้อย่างไร