สภาไซปรัสปฏิเสธแผนรีดภาษีเงินฝาก รบ.ต้องหันไปเจรจาผู้ปล่อยกู้

บีบีซี/เอเอฟพี - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไซปรัสวานนี้ (19) ลงมติท่วมท้น ปฏิเสธมาตรการเก็บภาษีเงินฝากตามเงื่อนไขกู้ยืมเงินจากนานาชาติ 10,000 ล้านยูโร ท่ามกลางความยินดีปรีดาของผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันหน้ารัฐสภา ส่งผลให้รัฐบาลต้องหันไปเจรจาต่อรองกับเหล่าเจ้าหนี้ พร้อมๆหาหนทางอื่นๆเพื่อเพิ่มรายได้ให้ถึง 5,800 ล้านยูโรตามข้อตกลง

ในการลงมติวันอังคาร (19) มีสมาชิกสภาฯ 36 คน ที่โหวตคัดค้าน 19 รายงดออกเสียง และไม่มีใครยกมือสนับสนุนมาตรการดังกล่าวเลย แม้ก่อนหน้าทางกระทรวงการคลังได้ปรับแก้แผนนี้ ด้วยเสนอยกเว้นการจัดเก็บภาษีกับผู้ฝากเงินรายย่อย แต่ก็ยังถูกต่อต้านอย่างดุเดือด

“ร่างกฎหมายนี้ถูกปฏิเสธ” ยิอันนากิส โอมิรู ประธานสภากล่าว ขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนที่รวมตัวกันบนท้องถนนสายต่างๆ รอบนอกอาคารรัฐสภา ต่างแสดงความยินดีปรีดาขานรับข่าวเกี่ยวกับผลของการลงมติ

เหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนเตือนไซปรัสว่า 2 ธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งของพวกเขาอาจต้องล้มละลาย หากข้อตกลงกู้ยืมเงินไม่ผ่านความเห็นชอบในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามด้วยที่มีเสียงโกรธกริ้วของประชาชนทั่วทั้งเกาะ รัฐสภาไซปรัส จึงออกเสียงปฏิเสธมาตรการดังกล่าว

ภายใต้มาตรการที่ไซปรัสตกลงกับอียูและไอเอ็มเอฟเบื้องต้น เงินฝากที่มีมูลค่าไม่เกิน 100,000 ยูโร จะถูกเก็บภาษี 6.7 เปอร์เซ็นต์ และเรียกเก็บในอัตรา 9.9 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเงินฝากตั้งแต่ 100,000 ยูโรขึ้นไป ก่อนที่จะมีการปรับแก้ด้วยการงดเว้นภาษีผู้มีเงินฝากต่ำกว่า 20,000 ยูโร แต่นั่นก็ดูจะไม่เพียงพอสำหรับบรรเทาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่ระหว่างศึกอภิปรายในรัฐสภาช่วงค่ำวันอังคาร (19) ส.ส.หลายคนก็ต่างลุกขึ้นตำหนิมาตรการเก็บภาษีว่าเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์ดีๆนี่เอง

เดิมทีประธานาธิบดีนิคอส อนัสตาเซียเดส ของไซปรัส เรียกร้องพรรคการเมืองทุกพรรคให้การสนับสนุนเงื่อนไขกู้ยืมเงิน โดยเตือนว่าไซปรัสอาจถึงขั้นล้มละลาย หากข้อตกลงนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ แต่ในช่วงเช้าของวันอังคาร(19) เขาก็ยอมรับว่าเหล่าส.ส.คงจะปฏิเสธมาตรการเก็บภาษีเงินฝาก แม้มีการปรับแก้แล้วก็ตาม

ทั้งนี้ทางประธานาธิบดีอนัสตาเซียเดส จะเรียกประชุมฉุกเฉินกับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆในตอนเช้าวันพุธ (20) เพื่อพิจารณาหาหนทางอื่นๆ สำหรับเดินหน้าแผนรับความช่วยเหลือจากอียูต่อไป

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าตอนนี้รัฐบาลจะหันไปเจรจาขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้อตกลงกู้ยิมเงินจากทรอยกา เจ้าหนี้นานาชาติอันประกอบด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) ในขณะเดียวกันก็จะหาทางอื่นๆ สำหรับเพิ่มรายได้แก่รัฐให้ถึง 5,800 ล้านยูโร โดยทางเลือกต่างๆเหล่านั้นได้แก่ออกพันธบัตร ปฏิรูประบบธนาคารของประเทศและพยายามดึงดูดการลงทุนจากรัสเซียเพิ่มเติม