“ผู้ว่าฯ ใหม่” ประกาศกร้าวทำทุกทางนำ ธ.กลางญี่ปุ่นสกัดเงินเฟ้อ-ฟื้น ศก.

เอเจนซีส์ - ฮารูฮิโกะ คุโรดะ ว่าที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นคนใหม่ ซึ่งเพิ่งลาออกจากตำแหน่งประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) หมาดๆ แย้มแนวนโยบายของเขาในการขุดรากถอนโคนภาวะเงินฝืดแบบรุกกร้าวสมใจรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัย โดยประกาศทำทุกทางที่ทำได้เพื่อฟื้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต พร้อมกับวิพากษ์นโยบายปัจจุบันของบีโอเจว่ายังไม่เพียงพอแก้ไขปัญหา

คุโรดะ ซึ่งได้รับเสนอชื่อจากรัฐบาลให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) คนใหม่ แต่ยังจะต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภาอีกชั้นหนึ่งก่อน ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (4 มี.ค.) ว่าวิธีการที่สามัญที่สุดที่จะเพิ่มขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของบีโอเจคือ การรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีระยะไถ่ถอนยาวขึ้น อีกทั้งควรเริ่มใช้แผนการซื้อสินทรัพย์ไม่จำกัดปริมาณให้เร็วขึ้น แทนที่จะรอถึงปีหน้าตามกำหนดเดิม

“พร้อมกันนั้นบีโอเจยังควรตรวจสอบพัฒนาการในตลาดและอุปสรรคด้วย”

คุโรดะสำทับว่า โครงการซื้อพันธบัตรมูลค่า 101 ล้านล้านเยน (1.08 ล้านล้านดอลลาร์) ของบีโอเจไม่เพียงพอ

นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ เสนอชื่อคุโรดะ เพราะคาดหวังว่าจะทำให้บีโอเจสนองตอบแนวทางเชิงรุกเพื่อยุติภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังเกือบสองทศวรรษ และฟื้นเศรษฐกิจที่ขณะนี้ถลำเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งที่ 4 นับจากปี 2000 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ อาเบะยังเสนอชื่อคิคูโอะ อิวาตะ นักวิชาการที่สนับสนุนนโยบายการเงินแนวใหม่ และฮิโรชิ นากาโสะ ลูกหม้อบีโอเจ เป็น 2 รองผู้ว่าการบีโอเจ

เป็นที่คาดหมายว่า รัฐสภาจะอนุมัติการเสนอชื่อคุโรดะภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ เนื่องจากฝ่ายค้านที่รัฐบาลต้องการเสียงสนับสนุนในสภาสูง ได้แสดงท่าทีแล้วว่าจะรับรองคุโรดะ

“ผมต้องการประกาศชัดเจนว่า เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อขจัดภาวะเงินฝืด” คุโรดะกล่าวและเสริมว่า แผนของตนจะรวมถึงการเปิดตัวมาตรการผ่อนคลายทางการเงินครั้งใหญ่

ทางด้านมาซาโตชิ ซาโตะ นักยุทธศาสตร์อาวุโสของมิซูโฮ ซีเคียวริตี้ส์ วิจารณ์ว่า คำแถลงของคุโรดะ ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เขามีแนวทางสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของคณะรัฐบาลอาเบะ

คุโรดะ อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายกิจการปริวรรตเงินตราของกระทรวงการคลัง จะเข้าแทนที่ มาซาเอกิ ชิรากาวะ ซึ่งจะลงจากตำแหน่งผู้นำบีโอเจวันที่ 19 นี้ หรือก่อนหมดวาระ 3 สัปดาห์

ภายใต้การบริหารของชิรากาวะ บีโอเจตกลงซื้อสินทรัพย์ 101 ล้านล้านเยนตั้งแต่ปลายปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งมุ่งนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะ 3 ปี กระทั่งเดือนมกราคมปีนี้ด้วยแรงบีบจากรัฐบาลอาเบะ บีโอเจจึงปรับเปลี่ยนแผนเป็นการรับซื้อสินทรัพย์ไม่จำกัดมูลค่านับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นไป รวมทั้งยินยอมกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 2% แทนที่จะเป็น 1%

แรงกดดันบีโอเจของอาเบะยังกำลังทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงจนทำสถิติต่ำสุดรอบ 3 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นทำนิวไฮรอบ 4 ปี เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินการคลังต่อไป ส่วนความเชื่อมั่นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลก็แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 เดือน

คุโรดะสำทับว่า บีโอเจควรทำเช่นเดียวกับธนาคารกลางประเทศอื่นๆ นั่นคือมุ่งเน้นการลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวและส่วนชดเชยความเสี่ยงต่างๆ ด้วยเป้าหมายเพื่อเพิ่มการบริโภคและการลงทุน ไม่ใช่เอาแต่มุ่งเน้นเฉพาะปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเท่านั้น

ว่าที่ผู้ว่าการบีโอเจยอมรับว่า ต่างชาติกังวลกับนโยบายการเงินของญี่ปุ่น และความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเยนอาจปลุกกระแสการแข่งขันกันลดค่าเงินตรา กระนั้น เขายืนยันว่า นโยบายของบีโอเจไม่ได้มีเป้าหมายที่อัตราแลกเปลี่ยน แต่ต้องการสร้างหลักประกันในเสถียรภาพราคาและบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อภายใน 2 ปี

คุโรดะยืนยันว่า ระดับอัตราแลกเปลี่ยนควรกำหนดโดยตลาด แต่เป็นไปได้ที่จะมีการแทรกแซงหากตลาดเบี่ยงเบนจากพื้นฐานอย่างรุนแรง และเสริมว่า คงเป็นการยากที่บีโอเจจะทุ่มทุนก้อนใหญ่ซื้อพันธบัตรต่างชาติ