เอเอฟพี - องค์กรกลางของกบฏซีเรียประกาศยุติเจรจากับมหาอำนาจตะวันตก พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติเร่งยับยั้งการสังหารหมู่พลเรือนซีเรีย หลังเมืองอะเลปโปเพิ่งถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธจนมีผู้เสียชีวิตไปหลายสิบราย เมื่อ 2 วันก่อน
แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition) ตัดสินใจงดเดินทางไปร่วมประชุมกับมหาอำนาจ พร้อมประกาศจัดตั้งรัฐบาลเพื่อปกครอง “พื้นที่อิสระ” ในซีเรีย ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า เป็นยุทธศาสตร์ที่จะสร้างความน่าเชื่อถือ และดึงแรงสนับสนุนจากนานาประเทศ
อาเหม็ด โมอาซ อัล-คอติบ ผู้นำแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย ระบุว่า องค์กรของตนขอถอนตัวจากการเจรจาในต่างแดน เพราะต้องการ “ประท้วงรัฐบาลทั่วโลกทั้งชาติอาหรับและที่มิใช่ชาติอาหรับ ซึ่งยังมองดูชาวซีเรียถูกเข่นฆ่าโดยไม่ทำอะไร”
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า สงครามกลางเมืองซีเรียคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 70,000 คนตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2011 และกำลังล่วงเข้าสู่ปีที่ 3 โดยไม่มีวี่แววว่าจะยุติลงได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22) กบฏซีเรียประณาม “ความนิ่งเฉยของนานาชาติ” ว่าไม่ต่างจากการ “ร่วมสังหารชาวซีเรียมานานถึง 2 ปี” พร้อมประกาศถอนตัวจากการประชุมที่อิตาลี, รัสเซีย และสหรัฐฯ
ผู้นำกบฏยังตำหนิรัสเซียเป็นการเฉพาะว่า “มีส่วนต้องรับผิดทั้งในด้านจริยธรรมและการเมือง” เนื่องจากมอสโกยังให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด อยู่
“เราไม่อาจไปเยือนประเทศใดได้ จนกว่าพวกเขาจะแสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับระบอบอันป่าเถื่อนนี้” คอติบระบุ
อังกฤษออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายกบฏทบทวนความตั้งใจเสียใหม่ โดยชี้ว่าขณะนี้มิใช่เวลาที่จะล้มเลิกการเจรจาง่ายๆ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษก็ยืนยันว่า ลอนดอนเตรียมจะมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อแนวร่วมแห่งชาติซีเรียในการประชุมที่กรุงโรม
อย่างไรก็ดี วาลิด อัล-บุนนี โฆษกฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ชี้ว่า ถ้อยแถลงใดๆ ก็ตามควรมี “การกระทำ” มาสนับสนุนด้วย
“หากพวกคุณเป็นมิตรกับเราจริง ก็โปรดหยุดยั้งการสังหารหมู่ที่กำลังเกิดกับประชาชนของเรา” บุนนีกล่าว พร้อมประกาศแผนจัดตั้งรัฐบาลเพื่อปกครองพื้นที่อิสระ ซึ่งน่าจะมีฐานที่มั่นทางตอนเหนือของซีเรีย
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียพยายามเรียกร้องให้นานาประเทศส่งอาวุธเข้าไปช่วยกบฏ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตะวันตกยังคัดค้าน เพราะเกรงว่าอาวุธเหล่านั้นจะตกไปถึงมือกลุ่มหัวรุนแรง
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอนรายงานว่า ชาวเมืองอะเลปโปเสียชีวิตไปอย่างน้อย 37 ราย และบาดเจ็บอีก 150 คน หลังจากที่เขตตอริก อัล-บับ ถูกขีปนาวุธโจมตี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22)