เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติเผย พลเรือนซีเรียอพยพหนีตายออกจากเมืองอะเลปโปแล้วราว 200,000 คน และอีกจำนวนมากยังคงติดอยู่ในเมือง ขณะที่การปะทะอย่างรุนแรงระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลกับกองกำลังกบฏย่างเข้าสู่วันที่ 2
สภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นองค์กรของกบฏ แถลงวานนี้ (29) ว่า รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เตรียมการสังหารหมู่ในเมืองอะเลปโป พร้อมกับเรียกร้องขออาวุธหนักเพื่อให้กบฎสามารถต่อต้านปฏิบัติการกวาดล้างของรัฐบาลได้
เอสเอ็นซียังขอให้ยูเอ็นเปิดประชุมวาระฉุกเฉินเพื่อหาวิธีปกป้องพลเรือนที่ตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิการต่อสู้
วาลิด อัล-มุอัลเล็ม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย เดินทางไปเยือนอิหร่านอย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายกบฎในเมืองอะเลปโปจะต้องถูกปราบราบคาบอย่างแน่นอน ขณะที่กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (เอฟเอสเอ) ก็อ้างว่า เมืองอาเลปโปกำลังกลายเป็นสุสานฝังรถถังของรัฐบาล
ด้านศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียในกรุงลอนดอน แถลงวานนี้ (29) ว่า ศูนย์กลางการปะทะอยู่ในย่านซาลาเฮดดิน ซึ่งกองทัพได้นำเฮลิคอปเตอร์โจมตีเข้าไประดมยิงใส่ฝ่ายต่อต้าน จนสถานการณ์เข้าขั้น “สงครามบนถนนเต็มรูปแบบ”
ประชาชนในเมืองอะเลปโปต่างเก็บตัวอยู่ตามห้องใต้ดิน เพื่อหลบหนีกระสุนปืนจากรถถังและเฮลิคอปเตอร์
วาเลอรี อามอส หัวหน้าฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น ระบุในถ้อยแถลงว่า จนถึงขณะนี้มีชาวเมืองอะเลปโปอพยพออกจากเมืองแล้วประมาณ 200,000 คน ภายในเวลาเพียง 2 วัน และยังไม่ทราบว่ามีผู้ติดอยู่ในเมืองอีกเท่าไหร่
ระหว่างแถลงที่นครนิวยอร์ก อามอสเผยด้วยว่า เธอรู้สึกวิตกอย่างยิ่งที่รัฐบาลซีเรียใช้รถถังและอาวุธหนักอื่นๆ เข้าโจมตีพลเรือนในเมืองอะเลปโป, ดามัสกัส และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งประชาชนที่เข้าไปหลบอยู่ตามโรงเรียนและอาคารสาธารณะกำลังต้องการอาหาร, เสื่อ, ผ้าห่ม, อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย และน้ำดื่มอย่างเร่งด่วน
ด้าน พ.อ.อับเดล จับบาร์ อัล-โอกอยดี ผู้บัญชาการกองกำลังปลดปล่อยซีเรียในเมืองอะเลปโป เรียกร้องให้ตะวันตกประกาศเขตห้ามบิน เพื่อยับยั้งมิให้กองทัพอัสซาดใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศได้
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เลียน เพเนตตา ก็ฝากคำเตือนไปยังอัสซาดว่า การเข่นฆ่าประชาชนในเมืองอะเลปโปไม่ต่างจากการ “ตอกฝาโลง” ให้กับตัวเอง
“สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองอะเลปโปเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ความรุนแรงแบบไม่เลือกหน้าที่ระบอบอัสซาดกระทำต่อประชาชนของตัวเอง” เพเนตตากล่าว
“และหากพวกเขายังดึงดันโจมตีเมืองอะเลปโปต่อไป ผมเชื่อว่าสุดท้ายมันจะเป็นการตอกฝาโลงให้กับอัสซาดเอง”