รอยเตอร์ - ญี่ปุ่นรอดพ้นเสียงตำหนิหวุดหวิด หลังจี20 ออกแถลงการณ์ยืนยันไม่มีสงครามค่าเงิน พร้อมประกาศเลื่อนการกำหนดเป้าหมายลดหนี้ใหม่ ตอกย้ำความกังวลที่มีอยู่อย่างกว้างขวางว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบาง
หลังจากหารือกันจนถึงคืนวันเสาร์ (16) ในที่สุดที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มจี20 ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันถึง 90% ของเศรษฐกิจโลก สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมที่ใกล้เคียงกับคำแถลงของกลุ่มจี7 ที่ออกมาเมื่อวันอังคารที่แล้ว (12) ซึ่งระบุถึงการสนับสนุนอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดโดยกลไกตลาด มากกว่าที่คาดไว้
จี20 แถลงย้ำความมุ่งมั่นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วในการเคลื่อนไหวเร็วขึ้นสู่แนวทางการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนโดยกลไกตลาด และอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นซึ่งสะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และหลีกเลี่ยงแนวทางอัตราแลกเปลี่ยนที่สวนทางกันเรื้อรัง
แถลงการณ์แจงว่า การเคลื่อนไหวอย่างไร้ระบบด้านอัตราแลกเปลี่ยน และการไหลเวียนทางการเงินที่ผันผวนเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน รวมทั้งระบุถึงพันธสัญญาในการระงับการใช้แนวทางการลดค่าเงินเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และการกำหนดนโยบายการเงินต้องมีเป้าหมายเพื่อเสถียรภาพราคาและการเติบโตเท่านั้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นตีความแถลงการณ์ของจี7 ที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี เกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดว่า ตนได้ไฟเขียวให้ดำเนินนโยบายโดยอิสระ หลังจากที่รัฐมนตรีคลัง ทาโร อาโสะ ได้อธิบายว่า คณะบริหารของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดอันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ จิม ฟลาเฮอร์ตี รัฐมนตรีคลังแคนาดายอมรับว่า เป็นการยากที่จะตรวจสอบว่า นโยบายภายในประเทศมีเป้าหมายเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลงหรือไม่
อนึ่ง แถลงการณ์จี20 เกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินภายในประเทศสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น สะท้อนความมุ่งมั่นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลังผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE3 เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวและการสร้างงาน
กระนั้น แม้ QE ที่ประกอบด้วยการซื้อพันธบัตรเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ในกรณีของเฟด ช่วยกระตุ้นการเติบโตจริง แต่ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้เงินทุนจำนวนมากไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ ก่อให้เกิดความวิตกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจีน เกี่ยวกับฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์ และการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันภาคส่งออก ดังนั้น แถลงการณ์จึงพยายามคลายความกังวลในเรื่องนี้ด้วยการระบุถึงความมุ่งมั่นในการลดไหลทะลักแง่ลบนี้
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของจี20 ยังไม่มีการให้คำมั่นเกี่ยวกับกลยุทธ์การคลังระยะกลางที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งไม่ได้กำหนดเป้าหมายเฉพาะเจาะจงเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเปราะบางเกินไป
ทั้งนี้ ข้อตกลงลดหนี้ที่ทำไว้ในโทรอนโทปี 2010 จะสิ้นสุดลงในปีนี้ หากบรรดาผู้นำไม่สามารถตกลงขยายเวลากันได้ในการประชุมสุดยอดจี20 ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเดือนกันยายนที่จะถึง สหรัฐฯ นั้นบอกว่า อยู่ระหว่างการบรรลุเป้าหมายที่ให้ไว้ที่โทรอนโท แต่ยืนกรานว่า จังหวะการปรับลดการขาดดุลทางการคลังในอนาคตต้องไม่บั่นทอนอุปสงค์ ขณะที่เยอรมนีและประเทศอื่นๆ ผลักดันให้มีการกำหนดเป้าหมายการลดหนี้ใหม่
ขณะเดียวกัน รัสเซีย ในฐานะประธานของกลุ่มจี20 ปีนี้ ยอมรับว่า จี20 ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับระดับการขาดดุลงบประมาณระยะกลาง และแสดงความกังวลกับนโยบายผ่อนคลายสุดขั้วที่ตนและประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ มองว่า อาจสร้างปัญหาในอนาคต
แถลงการณ์ปิดท้ายว่า แม้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกบรรเทาลง ทว่า การเติบโตยังอ่อนแอเกินไป ขณะที่อัตราว่างงานยังสูงเกินไปเช่นเดียวกัน
“จำเป็นต้องมีความพยายามร่วมกันเพื่อเดินหน้าการสร้างสหภาพเศรษฐกิจและการเงินที่เข้มแข็งขึ้นในยูโรโซน รวมทั้งการแก้ไขความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการคลังในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ตลอดจนถึงการกระตุ้นการเติบโตภายในประเทศ”