เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นับเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนวงการคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลก เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประกาศอำลาตำแหน่งสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยจะทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบกว่า 700 ปีที่สละตำแหน่งประมุขศาสนจักร ทั้งที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประกาศต่อที่ประชุมพระคาร์ดินัลในนครรัฐวาติกันเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาถึงการตัดสินพระทัยสละตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ทรงสามารถปฏิบัติพระกรณียกิจได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลก
ประกาศลาออกของพระสันตะปาปากลายเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ในยุโรปแทบทุกฉบับ โดยหนังสือพิมพ์รายวัน Il Sole 24 Ore ของอิตาลีตั้งข้อสันนิษฐานว่า เหตุที่ทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้คงเนื่องมาจากพระพลานามัยที่อ่อนแอลงโดยพระองค์เพิ่งจะทรงรับการผ่าตัดพระหทัยไปเมื่อไม่ถึง 3 เดือนก่อน และแม้ผลจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ที่ปรึกษาส่วนพระองค์เผยว่า อาการประชวรครั้งนี้ทำให้พระสันตะปาปาทรงมีพระดำริใคร่ครวญถึงความเหมาะสมที่จะทรงดำรงตำแหน่งผู้นำชาวคริสต์ต่อไป
อย่างไรก็ดี สำนักวาติกันแถลงยืนยันว่า สาเหตุที่พระสันตะปาปาทรงอำลาตำแหน่งมิได้มาจากพระอาการประชวรตามที่เป็นข่าว
การตัดสินพระทัยครั้งนี้มีที่ปรึกษาใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนที่ทราบล่วงหน้า พระราชาคณะส่วนใหญ่ต่างตกอยู่ในความตะลึงพรึงเพริด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพระคาร์ดินาล แอลเจโล โซดาโน ซึ่งอธิบายว่ารู้สึกเหมือนเห็น “ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ”
หนังสือพิมพ์รายวัน ลา สแตมปา เผยว่า หลังจากพระสันตะปาปาทรงประกาศสละตำแหน่งแล้วจึงเสด็จฯกลับไปยังที่ประทับ และทรงกันแสงอย่างหนัก และมีรายงานว่าพระองค์ทรงตัดสินพระทัยได้หลังจากที่ทรงลื่นล้มระหว่างเสด็จฯเยือนเม็กซิโกและคิวบาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ
ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่มองว่า พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ไม่ทรงปรารถนาที่จะเป็นอย่างอดีตพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ที่ประชวรอยู่นานก่อนจะสิ้นพระชนม์ในตำแหน่ง
ข่าวนี้ยังสร้างความตกตะลึงต่อชาวคริสต์คาทอลิกกว่า 1,100 ล้านคนทั่วโลก บางคนก็ชื่นชมว่าเป็นการตัดสินพระทัยอย่างเด็ดเดี่ยว ซึ่งเป็นแบบอย่างให้แก่พระสันตะปาปาองค์ต่อๆ ไปที่อาจจะทรงมีพระชนมายุมากและพระพลานามัยไม่เอื้ออำนวยเช่นกัน แต่ก็มีชาวคริสต์บางคนที่รู้สึกเสียดาย และไม่เข้าใจว่าเหตุใดสมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งได้รับคัดเลือกจากที่ประชุมพระคาร์ดินัลชั้นสูงโดยการดลใจจากพระผู้เป็นเจ้า จะมาสละตำแหน่งง่ายๆเช่นนี้
แม้จะทรงดำรงตำแหน่งประมุขคริสตจักรได้เพียง 8 ปี ทว่าพระกรณียกิจที่ผ่านมาก็ทำให้พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16ทรงมีศัตรูอยู่มากมาย โดยเฉพาะชุมชนชาวเกย์และนักเคลื่อนไหวต่อต้านโรคเอดส์ที่ตำหนิความพยายามของคริสตจักรที่จะปกปิดความชั่วของบาทหลวงบางรูปที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาร์บิชอป โฮเซ โกเมซ ในนครลอสแองเจลิสถูกศาลสั่งให้เปิดเผยข้อมูลนักบวชราว 100 รูปที่มีพฤติกรรมชอบละเมิดทางเพศเยาวชน และเมื่อปีที่แล้ว มอนซีเนอร์ วิลเลียม ลีนน์ จากเมืองฟิลาเดลเฟียก็ถูกตัดสินจำคุก 3-6 ปี ฐานปกปิดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวง 2 รูป และยังอนุญาตให้นักบวชผู้กระทำผิดอยู่ในตำแหน่งต่อไปทั้งๆที่มีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เยาว์
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐฯแถลงว่า ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมามีบาทหลวงก่อคดีละเมิดทางเพศผู้เยาว์ถึง 6,100 รูป สามารถระบุชื่อเหยื่อผู้ถูกกระทำได้ 16,000 ราย และทำให้คริสตจักรต้องสูญเสียงบประมาณไปถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อชดเชยความเสียหายและบำบัดสภาพจิตใจของเหยื่อ
องค์กรผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศโดยบาทหลวงคาทอลิก ต่างแสดงความปลาบปลื้มกับข่าวการลาออกของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 โดยชี้ว่าที่ผ่านมาสันตะปาปาพระองค์นี้ทรงนิ่งเฉยต่อปัญหาการละเมิดทางเพศ และไม่เคยมีบทลงโทษบาทหลวงหรือพระราชาคณะที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
พระสันตะปาปาซึ่งทรงเป็นทั้งนักเทววิทยาและผู้แต่งตำราศาสนาจำนวนมาก ยังทรงถูกมองว่าห่างเหินจากงานบริหารคริสตจักรมากเกินไป
หลังจากที่ทรงพ้นตำแหน่งแล้ว พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะเสด็จฯไปประทับที่ Castel Gandolfo ใกล้กรุงโรม ก่อนจะทรงย้ายมาประทับ ณ อารามที่มีสวนดอกไม้ภายในเขตสำนักวาติกัน ไม่ไกลจากที่ประทับของพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
ผู้สังเกตการณ์ต่างเริ่มวิเคราะห์คาดเดาว่า พระคาร์ดินัลชั้นสูงรูปใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประมุขคริสตจักรคาทอลิกองค์ใหม่ บ้างก็ว่าบัลลังก์สันตะปาปาจะกลับไปสู่พระคาร์ดินัลชาวอิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่ว่างเว้นไปนานตั้งแต่ปี 1978 แต่บางคนก็เชื่อว่า พระสันตะปาปาองค์ใหม่อาจจะมาจากภูมิภาคอเมริกาเหนือ, แอฟริกา หรือแม้กระทั่งเอเชียก็เป็นได้
การที่พระสันตะปาปาซึ่งมีพระชนมายุ 85 พรรษา ตัดสินพระทัยสละตำแหน่งด้วยปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ที่ประชุมพระคาร์ดินัลคัดเลือกผู้ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่นมาเป็นประมุขคริสตจักรองค์ต่อไป
พระคาร์ดินัลชั้นสูงจะจัดการประชุมลับ (conclave) เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยแต่ละวันจะมีการส่งสัญญาณควันสีดำออกมา ซึ่งหมายความว่าที่ประชุมยังเจรจาไม่ได้ข้อยุติ จนกระทั่งวันใดที่สัญญาณควันออกมาเป็นสีขาว ก็หมายความว่าชาวคริสต์คาทอลิกทั่วโลกได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำนักวาติกันแถลงว่า การแต่งตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ซึ่งจะเป็นองค์ที่ 266 น่าจะเสร็จสิ้นก่อนถึงเทศกาลอีสเตอร์ซึ่งตรงกับวันที่ 31 มีนาคมปีนี้
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประกาศต่อที่ประชุมพระคาร์ดินัลในนครรัฐวาติกันเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาถึงการตัดสินพระทัยสละตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ทรงสามารถปฏิบัติพระกรณียกิจได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลก
ประกาศลาออกของพระสันตะปาปากลายเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ในยุโรปแทบทุกฉบับ โดยหนังสือพิมพ์รายวัน Il Sole 24 Ore ของอิตาลีตั้งข้อสันนิษฐานว่า เหตุที่ทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้คงเนื่องมาจากพระพลานามัยที่อ่อนแอลงโดยพระองค์เพิ่งจะทรงรับการผ่าตัดพระหทัยไปเมื่อไม่ถึง 3 เดือนก่อน และแม้ผลจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ที่ปรึกษาส่วนพระองค์เผยว่า อาการประชวรครั้งนี้ทำให้พระสันตะปาปาทรงมีพระดำริใคร่ครวญถึงความเหมาะสมที่จะทรงดำรงตำแหน่งผู้นำชาวคริสต์ต่อไป
อย่างไรก็ดี สำนักวาติกันแถลงยืนยันว่า สาเหตุที่พระสันตะปาปาทรงอำลาตำแหน่งมิได้มาจากพระอาการประชวรตามที่เป็นข่าว
การตัดสินพระทัยครั้งนี้มีที่ปรึกษาใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนที่ทราบล่วงหน้า พระราชาคณะส่วนใหญ่ต่างตกอยู่ในความตะลึงพรึงเพริด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพระคาร์ดินาล แอลเจโล โซดาโน ซึ่งอธิบายว่ารู้สึกเหมือนเห็น “ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ”
หนังสือพิมพ์รายวัน ลา สแตมปา เผยว่า หลังจากพระสันตะปาปาทรงประกาศสละตำแหน่งแล้วจึงเสด็จฯกลับไปยังที่ประทับ และทรงกันแสงอย่างหนัก และมีรายงานว่าพระองค์ทรงตัดสินพระทัยได้หลังจากที่ทรงลื่นล้มระหว่างเสด็จฯเยือนเม็กซิโกและคิวบาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ
ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่มองว่า พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ไม่ทรงปรารถนาที่จะเป็นอย่างอดีตพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ที่ประชวรอยู่นานก่อนจะสิ้นพระชนม์ในตำแหน่ง
ข่าวนี้ยังสร้างความตกตะลึงต่อชาวคริสต์คาทอลิกกว่า 1,100 ล้านคนทั่วโลก บางคนก็ชื่นชมว่าเป็นการตัดสินพระทัยอย่างเด็ดเดี่ยว ซึ่งเป็นแบบอย่างให้แก่พระสันตะปาปาองค์ต่อๆ ไปที่อาจจะทรงมีพระชนมายุมากและพระพลานามัยไม่เอื้ออำนวยเช่นกัน แต่ก็มีชาวคริสต์บางคนที่รู้สึกเสียดาย และไม่เข้าใจว่าเหตุใดสมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งได้รับคัดเลือกจากที่ประชุมพระคาร์ดินัลชั้นสูงโดยการดลใจจากพระผู้เป็นเจ้า จะมาสละตำแหน่งง่ายๆเช่นนี้
แม้จะทรงดำรงตำแหน่งประมุขคริสตจักรได้เพียง 8 ปี ทว่าพระกรณียกิจที่ผ่านมาก็ทำให้พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16ทรงมีศัตรูอยู่มากมาย โดยเฉพาะชุมชนชาวเกย์และนักเคลื่อนไหวต่อต้านโรคเอดส์ที่ตำหนิความพยายามของคริสตจักรที่จะปกปิดความชั่วของบาทหลวงบางรูปที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาร์บิชอป โฮเซ โกเมซ ในนครลอสแองเจลิสถูกศาลสั่งให้เปิดเผยข้อมูลนักบวชราว 100 รูปที่มีพฤติกรรมชอบละเมิดทางเพศเยาวชน และเมื่อปีที่แล้ว มอนซีเนอร์ วิลเลียม ลีนน์ จากเมืองฟิลาเดลเฟียก็ถูกตัดสินจำคุก 3-6 ปี ฐานปกปิดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวง 2 รูป และยังอนุญาตให้นักบวชผู้กระทำผิดอยู่ในตำแหน่งต่อไปทั้งๆที่มีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เยาว์
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งสหรัฐฯแถลงว่า ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมามีบาทหลวงก่อคดีละเมิดทางเพศผู้เยาว์ถึง 6,100 รูป สามารถระบุชื่อเหยื่อผู้ถูกกระทำได้ 16,000 ราย และทำให้คริสตจักรต้องสูญเสียงบประมาณไปถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อชดเชยความเสียหายและบำบัดสภาพจิตใจของเหยื่อ
องค์กรผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศโดยบาทหลวงคาทอลิก ต่างแสดงความปลาบปลื้มกับข่าวการลาออกของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 โดยชี้ว่าที่ผ่านมาสันตะปาปาพระองค์นี้ทรงนิ่งเฉยต่อปัญหาการละเมิดทางเพศ และไม่เคยมีบทลงโทษบาทหลวงหรือพระราชาคณะที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
พระสันตะปาปาซึ่งทรงเป็นทั้งนักเทววิทยาและผู้แต่งตำราศาสนาจำนวนมาก ยังทรงถูกมองว่าห่างเหินจากงานบริหารคริสตจักรมากเกินไป
หลังจากที่ทรงพ้นตำแหน่งแล้ว พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะเสด็จฯไปประทับที่ Castel Gandolfo ใกล้กรุงโรม ก่อนจะทรงย้ายมาประทับ ณ อารามที่มีสวนดอกไม้ภายในเขตสำนักวาติกัน ไม่ไกลจากที่ประทับของพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
ผู้สังเกตการณ์ต่างเริ่มวิเคราะห์คาดเดาว่า พระคาร์ดินัลชั้นสูงรูปใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประมุขคริสตจักรคาทอลิกองค์ใหม่ บ้างก็ว่าบัลลังก์สันตะปาปาจะกลับไปสู่พระคาร์ดินัลชาวอิตาลีอีกครั้ง หลังจากที่ว่างเว้นไปนานตั้งแต่ปี 1978 แต่บางคนก็เชื่อว่า พระสันตะปาปาองค์ใหม่อาจจะมาจากภูมิภาคอเมริกาเหนือ, แอฟริกา หรือแม้กระทั่งเอเชียก็เป็นได้
การที่พระสันตะปาปาซึ่งมีพระชนมายุ 85 พรรษา ตัดสินพระทัยสละตำแหน่งด้วยปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ที่ประชุมพระคาร์ดินัลคัดเลือกผู้ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่นมาเป็นประมุขคริสตจักรองค์ต่อไป
พระคาร์ดินัลชั้นสูงจะจัดการประชุมลับ (conclave) เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยแต่ละวันจะมีการส่งสัญญาณควันสีดำออกมา ซึ่งหมายความว่าที่ประชุมยังเจรจาไม่ได้ข้อยุติ จนกระทั่งวันใดที่สัญญาณควันออกมาเป็นสีขาว ก็หมายความว่าชาวคริสต์คาทอลิกทั่วโลกได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำนักวาติกันแถลงว่า การแต่งตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ซึ่งจะเป็นองค์ที่ 266 น่าจะเสร็จสิ้นก่อนถึงเทศกาลอีสเตอร์ซึ่งตรงกับวันที่ 31 มีนาคมปีนี้