เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่อันดับที่ 6 ของญี่ปุ่น และอันดับ 16 ของโลกในแง่ของการผลิต ประกาศในวันอังคาร (5) ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนซึ่งนับถึงเดือนธันวาคมปี 2012 เพิ่มสูงขึ้น 27.3 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
คำแถลงจากสำนักงานใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่เขตมินาโตะ ในกรุงโตเกียวระบุว่า ผลกำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 17,300 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยราว 5,545 ล้านบาท) และสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทมีกำไรได้มาจากความพยายามในการตัดลดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถฟันฝ่าวิกฤตมาได้ ทั้งที่รายได้จากการจำหน่ายรถของมิตซูบิชิทั่วโลกลดลง 0.8 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 1.28 ล้านล้านเยน (ราว 410,376 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน ยอดจำหน่ายรถยนต์รุ่นต่างๆ ของมิตซูบิชิที่พุ่งกระฉูดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทยยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลกำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ดี จากปัญหาวิกฤตหนี้สินในยุโรป และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ทางโอซามุ มาสุโกะ ประธานบริหารของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต้องออกมาปรับลดเป้าหมายด้านยอดขายรถของทางบริษัทในช่วงสิ้นสุดปีการเงินในเดือนมีนาคมนี้ลงเหลือ 1.81 ล้านล้านเยน จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.83 ล้านล้านเยน