xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 3 มกราคม 2556 จาก กองทุนบัวหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


General News

• Markit Economics เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือน ธ.ค. 2555 ลดลงเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกันสู่ระดับ 46.1 แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 เข้าสู่ภาวะหดตัวรุนแรงมากขึ้น

• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นของเยอรมนีในเดือน ธ.ค. 2555 ขยายตัว 0.9% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. และขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลมาจากราคาเสื้อผ้า รวมถึงราคาโรงแรมและแกเกจท่องเที่ยวที่สูงขึ้นตามฤดูกาล

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษในเดือน ธ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.4 จาก 49.2 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดและเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 15 เดือน บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของอังกฤษกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศ

• ปธน.บารัค โอบามา เตรียมลงนามบังคับใช้กฎหมายที่จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (Fiscal cliff) หลังจากที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ในขณะที่ สนง.งบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) เปิดเผยว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ทำการสำรวจโดย Markit Economics เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 54 จากระดับ 52.8 ในเดือน พ.ย. โดยมียอดคำสั่งซื้อสินค้าทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการจ้างงานที่ดีขึ้น

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 50.6 ซึ่งดัชนีได้อยู่เหนือระดับ 50 มาเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว ในขณะที่ PMI จากการสำรวจโดย HSBC อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนที่ 51.5 แสดงให้เห็นว่าภาคโรงงานของจีนกำลังขยายตัว ซึ่งนับเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับเศรษฐกิจจีนในปี 2556

• ยอดเกินดุลการค้าของเกาหลีใต้ในเดือน ธ.ค. 2555 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.03 พันล้านดอลลาร์ จาก 4.38 พันล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ย. เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่ยังคงไม่ฟื้นตัวทำให้การส่งออกชะลอตัวลง

• HSBC เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นสู่ 50.1 ในเดือน ธ.ค. จาก 48.2 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองอุปสงค์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยอดสินค้าส่งออกกลับยังคงลดลงทำให้คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะเป็นไปอย่างเปราะบางต่อไป

• เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในไตรมาส 4 ปี 2555 เติบโต 1.8% เมื่อคิดเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบของสภาพเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอและต้นทุนภาคธุรกิจที่สูงขึ้นส่งผลให้ GDP ของสิงคโปร์ทั้งปี 2555 เติบโตเพียงระดับ 1.2% เท่านั้น โดย ก.พาณิชย์และอุตสาหกรรมแห่งสิงคโปร์ได้ประเมินว่าเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้จะขยายตัวอยู่ในช่วง 1-3%

• ดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยภาคเอกชนของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2555 เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 211.9 สูงขึ้นจากปลายปี 2554 ถึง 2.8% แม้ว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการคุมเข้มรวมถึงเพิ่มอุปทานห้องชุดให้มากขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดแล้วก็ตาม

• อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียในเดือน ธ.ค.ชะลอตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.3% เมื่อเทียบรายปี ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธ.กลางอินโดฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.75% ในการประชุมเดือนนี้

• อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือน ธ.ค. 2555 อยู่ที่ระดับ 3.63% เพิ่มขึ้น 0.39% จากเดือน พ.ย. เนื่องจากราคาอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา แพงขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2555 อยู่ที่ระดับ 3.02% โดย ก.พาณิชย์ประมาณการอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ในช่วง 2.80-3.40% ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อแค่ 0.1% เท่านั้น

• คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2556 อีก 4.04 สต. ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประชาชนจะต้องจ่ายปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.72 บาทต่อหน่วย มาเป็น 3.76 บาทต่อหน่วย

Equity Market

• SET Index ปิดตลาดสิ้นปี 2555 ที่ 1,407.45 จุด เพิ่มขึ้น 15.52 จุดหรือ +1.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,703.29 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 737.88 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในแดนบวกและทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนหลักในการที่สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง(Fiscal Cliff) รวมไปถึงการที่ตัวเลขดัชนี PMI ของจีนในเดือน ธ.ค.ที่ออกมาเกินระดับ 50 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวชัดเจนและขยายตัวดีต่อเนื่อง

Fixed Income Market

• วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยง Fiscal Cliff แล้ว โดยจะขึ้นภาษีครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 450,000 ดอลลาร์ และเลื่อนเวลาการตัดลดภาษี 1.09 แสนล้านดอลลาร์อัตโนมัติออกไปอีก 2 เดือน ด้วยคะแนน 257-167 เสียง โดยยังไม่มีการพิจารณาเรื่องขยายเพดานหนี้

ทั้งนี้ โอบามาให้สัมภาษณ์ว่าจะลงนามในกฎหมายดังกล่าวเพื่อเพิ่มภาษีคนรวยที่มีจำนวน 2% ของชาวอเมริกัน โดยไม่ขึ้นภาษีชนชั้นกลางเพราะอาจส่งผลให้เศรษฐกิจกลับสู่ภาวะถดถอย และการขาดดุลงบประมาณก็จำเป็นต้องทำให้ลดลงด้วยวิธีที่สมดุลซึ่งทุกคนจะมีส่วนร่วมในการจ่ายในสัดส่วนที่ยุติธรรม พร้อมทั้งเตือนว่าจะไม่ต่อรองกับพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส และจะไม่ยื่นข้อเสนอยอมลดค่าใช้จ่ายเพื่อไปแลกกับการยกเลิกข้อจำกัดเงินกู้ยืมของรัฐบาล (เพดานหนี้) เพราะหากไม่บรรลุข้อตกลงดังกล่าว คนอเมริกันทั้งหมดจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีและการตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลโดยรวม 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเปราะบางอยู่ได้

อนึ่ง สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) เปิดเผยว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลกลางขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับการตัดลดงบรายจ่ายถ้วนหน้าที่จะเกิดขึ้นหากเข้าสู่ภาวะ Fiscal Cliff ในขณะที่คณะกรรมการจัดทำงบประมาณอย่างรับผิดชอบชี้ว่า ร่างนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณได้ 650,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อมาตรการด้านภาษีและการตัดลดค่าใช้จ่ายมีผลตั้งแต่ปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น