เอเอฟพี - แฮร์รี รีด ผู้นำสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯเผยในวันจันทร์(31) ยังมิอาจบรรลุข้อตกลง หลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติหรือภาวะหน้าผาการคลัง จำนวน 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แม้มีการเจรจากันอย่างเคร่งเครียดตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา
"ยังมีอีกหลายประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายยังคงเห็นต่าง" แฮร์รี รีด ผู้นำวุฒิสมาชิกเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตบอก อ้างถึงการเจรจาประนีประนอมที่ยังโต้เถียงกันอย่างหนัก แม้ โจ ไบเดน รองประธานาธิบดี จะเข้ารับบทบาทสำคัญในการเจรจากับ มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำวุฒิสมาชิกเสียงข้างน้อยจากรีพับลิกันก็ตาม
ไบเดนและแมคคอนเนลล์ เป็นเพื่อนในวุฒิสภากันมานานกว่า 20 ปี และตอนเช้าวันจันทร์(31) ทั้งสองคนได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง ทว่าก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงประนีประนอมกันได้ "การเจรจายังคงดำเนินต่อไป แต่เวลาของเราก็ใกล้หมดลงแล้ว" รีดดล่าว
นายรีดกล่าวต่อว่า "เราจะสามารถตกลงกันได้ในช่วงเวลาอันสั้นที่เหลืออยู่นี้หรือไม่ สิ่งสำคัญคือเราต้องการความร่วมมือจากทั้งสองฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีทุกครอบครัวของอเมริกันชนในวันพรุ่งนี้(1)"
เดิมทีผู้นำฝ่ายเดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภาล้วนคาดหมายว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงเลี่ยงหน้าผาการคลังได้ภายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(30) แต่จนแล้วจนรอดทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังถือจุดยืนที่แตกต่างและหาทางประนีประนอมกันไม่ได้ จนในที่สุด แฮร์รี รีด ผู้นำส.ว.เสียงข้างมากพรรคเดโมแครต ต้องประกาศเลื่อนการโหวตลงคะแนนมาเป็นวันนี้(31)แทน
ประเด็นที่เดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่อาจตกลงกันได้ก็คือ จะขยายช่วงเวลาลดหย่อนภาษีสำหรับพลเมืองทุกกลุ่มรวมถึงบุคคลร่ำรวยตามที่รีพับลิกันเรียกร้อง หรือจะให้สิทธิ์เฉพาะพลเมืองที่มีรายได้น้อยกว่า 250,000-400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ตามแผนของรัฐบาลเดโมแครต
การที่รีพับลิกันยืนกรานให้รัฐบาลตัดลดรายจ่ายลงมากกว่าแผนที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยเสนอมา ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ทำให้ทั้ง 2 พรรคไม่สามารถตกลงกันได้
นอกจากประเด็นหน้าผาการคลังแล้ว ส.ส.จากรัฐที่ทำการเกษตรเป็นหลักยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสยืดอายุกฎหมายเกษตรกรรม เพื่อมิให้ราคานมโคขยับขึ้นเท่าตัวเป็น 7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อแกลลอนหรือยิ่งกว่านั้นในช่วงต้นปี 2013
การงดเก็บภาษีค่าจ้างชั่วคราว (payroll tax holiday) ที่ใช้มากว่า 2 ปียังมีแนวโน้มจะถูกยกเลิกไปหลังเที่ยงคืนของวันนี้(31)ด้วย ซึ่งทั้งฝ่ายเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็ไม่กระตือรือร้นที่จะต่ออายุนโยบายดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพราะภาษีที่ได้ก็จะนำมาอุดหนุนโครงการสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุนั่นเอง
อัตราภาษี 4.2% ที่คนทำงานราว 160 ล้านคนในสหรัฐฯต้องจ่ายจะขยับขึ้นเป็น 6.2% ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(1) ซึ่งเป็นผลกระทบที่ผู้เสียภาษีจะต้องแบกรับโดยตรง