รอยเตอร์—สำนักข่าวซินหวารายงานในวันขึ้นปีใหม่ ขอให้สหรัฐอเมริการับผิดชอบเศษรฐกิจโลก ละวางการต่อสู้ทางการเมืองก่อน และหันมาแก้ไขปัญหา “หน้าผาการคลัง”
“ด้วยฐานะมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลกนี้ และเป็นผู้กำหนดทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ สหรัฐฯจึงมีบทบาทพิเศษจำเพาะและหน้าที่ที่ไม่อาจลดทอนในการช่วยเยียวยาความป่วยไข้ของเศรษฐกิจโลก” ข้อความในบทความแสดงความคิดเห็นของสำนักข่าวซินหวา เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ระบุ
“ในโลกปัจจุบัน ที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกัน พึ่งพิงซึ่งกันและกัน การที่ผู้นำสหรัฐฯดำเนินการรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาโลก จึงนับเป็นผลประโยชน์มากกว่าเป็นภาระ
“และหากวอชิงตันล้มเหลวในการลากตัวเองออกจากหน้าผา สถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็จะยิ่งเลวร้าย การฟื้นตัวจะเฉื่อยเนือยและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะนิ่งเน่า ดั่งตกอยู่ในฤดูหนาวอันเย็นยะเยือก”
ในบทแสดงความคิดเห็นของซินหวา สื่อกระบอกเสียงหลักของจีน ยังกล่าวอีกว่า “ความเสี่ยงภัยพิบัติ “หน้าผาการคลัง” เป็นเครื่องสะท้อนอย่างชัดเจน ถึงระบบการเมืองอเมริกัน ที่ไร้น้ำยา
“ขณะนี้ ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน เอาแต่ต่อสู้กันเอง จนแทบก่อความพินาศ แทนที่จะจับมือกันทำงานเพื่ออนาคตของประเทศชาติ”
“อเมริกันอาจภาคภูมิใจในประชาธิปไตยของตน แต่ความล้มเหลวในทางการเมืองในวอชิงตัน ดูน่าเกลียดน่ากลัวในสายตาคนนอกมาก”
ทั้งนี้ บทแสดงความคิดเห็นของซินหวานี้ มิใช่การแถลงนโยบายของรัฐ จึงถูกมองเป็นการสะท้อนความคิดของรัฐบาลมากกว่า
บทความในซินหวา ยังชี้ว่า สหรัฐฯหวิดกลิ้งตกหน้าผาการคลังในเที่ยงคืนของวันจันทร์(31 ธ.ค.) อย่างน้อยก็หนึ่งวันเต็ม ระหว่างที่ผู้นำในวุฒิสภาอินทรีอออกแรงสุดชีวิตในการสกัดสมาชิกในสภาซีเนตเทเสียงสนับสนุนกฎหมายขึ้นภาษีพลเมืองอเมริกันและตัดลดค่าใช้จ่ายรัฐบาล กว่าที่จะล้มกฎหมายขึ้นภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายฯ
ทั้งนี้กลุ่มวิเคราะห์กล่าวว่า จีนมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศก้อนใหญ่สุดในโลก มูลค่า 3.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และได้ทุ่มเงิน 70 เปอร์เซนต์ ของทุนสำรองฯนี้ ไปลงทุนในสินทรัพย์อเมริกัน รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ในด้านเศรษฐกิจ จีนกำลังยุติภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกาะกุมจีนมาตลอดปี 2555 ทั้งนี้ในปีที่แล้ว การเติบโตเศรษฐกิจมังกรเป็นไปอย่างช้าสุดนับจากปี 2542 ตัวเลขคาดการณ์ของสำนักรอยเตอร์ระบุ ตัวเลขเติบโตฯจีนปีนี้ที่ 7.7 เปอร์เซนต์ ซึ่งยังสูงกว่าตัวเลขของบรรดายักษ์เศรษฐกิจโลกรายอื่น.