xs
xsm
sm
md
lg

ผลการศึกษาพบ ยารักษาวัณโรคปลอมเกลื่อนประเทศโลกที่ 3 รวมทั้งไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางพยาบาลในแอฟริกาใต้ตรวจร่างกายเด็กน้อย ก่อนรับวัคซีนต้านวัณโรคใหม่ ที่ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
เอเอฟพี - ผลการสำรวจโดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันนี้ (5) พบ แอฟริกา อินเดีย และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ รวมถึงไทย เต็มไปด้วยยารักษาวัณโรคปลอม หรือต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งยิ่งทำให้เชื้อโรคร้ายนี้ดื้อยา

เจ้าหน้าที่สอบถามประชาชนใน 19 เมือง จาก 17 ประเทศ เกี่ยวกับการซื้อยาไอโซไนอะซิด และไรแฟมพิซิน ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะสำหรับต้านเชื้อทีบี อันดับต้นๆ จากร้านขายยาเอกชนในแต่ละท้องถิ่น

ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างยาดังกล่าวถูกนำไปตรวจสอบด้วยวิธีโครมาโทกราฟี หรือการแยกองค์ประกอบสารเนื้อเดียว เพื่อระบุหาตัวยาสำคัญ และยังถูกทดสอบการสลายตัว ว่ายาเหล่านั้นสามารถแตกตัวในน้ำ ที่อุณหภูมิร่างกายอย่างเหมาะสมได้ภายใน 30 นาทีหรือไม่

ผลการตรวจสอบ ที่ตีพิมพ์ในวารสารวัณโรค และโรคปอด ระดับนานาชาติ ระบุว่า จากกลุ่มตัวอย่างยาทั้งหมด 713 ตัว 9.1% ไม่ผ่านการทดสอบควบคุมคุณภาพพื้นฐาน และอีกเกือบครึ่งหนึ่งของยาดังกล่าวไม่มีตัวยาสำคัญ ซึ่งตัวยาเหล่านั้น่าจะเป็นสาเหตุของการดื้อยา

การดื้อยาวัณโรคนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อยาไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคได้ หรือไม่ก็เนื่องจากผู้ป่วยไม่กินยาตามขนาดที่แพทย์สั่ง หรือใช้ยานั้นใช้ไม่ได้ผล

รายงานชี้ว่า ยาที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้นผลิตขึ้นทั้งจากบริษัทที่ถูกต้องตามกฏหมาย และแก๊งปลอมยา โดยสามารถพบได้ที่ร้านขายยาในประเทศต่างๆ เช่น แองโกลา บราซิล จีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อียิปต์ เอธิโอเปีย กานา อินเดีย เคนยา ไนจีเรีย รัสเซีย รวันดา แทนซาเนีย ตุรกี ยูกันดา แซมเบีย รวมถึงไทย

สำหรับสัดส่วนของยาที่ต่ำกว่ามาตรฐานนั้นพบในแอฟริกา 16.6% ในอินเดีย 10.1% และ 3.9% ในบราซิล จีน ไทย ตุรกี และรัสเซีย

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่าในปี 2011 ประชากรเกือบ 9 ล้านคนทั่วโลกติดเชื้อทีบี โดยผู้ป่วยมากกว่า 400,000 รายมีอาการดื้อยาหลายชนิด

วัณโรค หรือทีบี เป็น 1 ในโรคติดต่อร้ายแรงที่สุดของโลก แพร่จากคนสู่คนผ่านทางอากาศ โดยมักส่งผลต่อปอด แต่ก็ยังสามารถทำลายอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น สมอง และไต
กำลังโหลดความคิดเห็น