เอเอฟพี - ความปรารถนาให้อังกฤษร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ในหมู่ชาวเมืองน้ำหอมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส 2 ฉบับเผย วันนี้(27)
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยหนังสือพิมพ์ เลอ ปารีเซียง ฉบับวันอาทิตย์ ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเกินครึ่งไม่ยี่หระ หากเพื่อนบ้านที่อยู่คนละฟากฝั่งช่องแคบจะขอถอนตัวจากอียู หลังนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษประกาศจะทำประชามติเพื่อให้ชาวเมืองผู้ดีตัดสินใจเองว่า ยังต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอียูต่อไปหรือไม่
อย่างไรก็ดี โพลจากหนังสือพิมพ์ ฌูร์นาล ดู ดิมองช์ กลับพบว่า ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ร้อยละ 58 ต่อ 42 ยังปรารถนาให้อังกฤษอยู่ร่วมกลุ่มอียู 27 ชาติต่อไป
ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ยังพบมุมมองที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย โดยโพลของ ฌูร์นาล ดู ดิมองช์ พบว่า สตรีเมืองน้ำหอมร้อยละ 69 ต้องการให้ คาเมรอน และชาวอังกฤษทั้งมวลได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะชาติสมาชิกอียู ขณะที่ชายชาวฝรั่งเศสร้อยละ 54 พร้อมกล่าวคำอำลา “โอ เรอวัวร์” หากอังกฤษคิดจะปลีกตัวออกไปจริง
เลอ ปารีเซียง พบว่า ร้อยละ 52 ของผู้ที่แสดงความเห็นไปในทางใดทางหนึ่ง (ซึ่งมีอยู่ราวร้อยละ 97) ปรารถนาให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียูไปเสีย
แม้การสำรวจความคิดเห็นทั้ง 2 ชิ้นจะได้ผลที่แตกต่างพอสมควร และมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง แต่ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ชาวฝรั่งเศสสนับสนุนสมาชิกภาพของอังกฤษน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดภายในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา หลังอังกฤษได้เข้าเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (อีอีซี) เมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 1973
ผลสำรวจในฝรั่งเศสเมื่อเดือนเมษายนปี 1972 พบว่า ชาวเมืองน้ำหอมเห็นชอบให้อังกฤษ, เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เข้าร่วมกลุ่ม อีอีซี มากถึงร้อยละ 68
รัฐบาลนอร์เวย์ในขณะนั้นปฏิเสธที่จะเข้าร่วม อีอีซี เนื่องจากผลการทำประชามติไม่เห็นชอบ ขณะที่อังกฤษซึ่งลงนามเข้าร่วมกับ อีอีซี ในสมัยของนายกรัฐมนตรี เอ็ดเวิร์ด ฮีธ เลือกที่จะอยู่ร่วมกลุ่มเศรษฐกิจกับชาติยุโรปอื่นๆต่อไป ตามผลประชามติในปี 1975 ภายใต้รัฐบาลพรรคเลเบอร์
หลังจากที่ คาเมรอน ประกาศคำมั่นสัญญาที่จะทำประชามติอีกครั้งภายในปี 2017 ผลสำรวจความคิดเห็นเบื้องต้นก็พบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่พร้อมโหวตนำพาประเทศออกจากอียู แม้ว่าเกือบ 1 ใน 4 จะยังไม่ตัดสินใจก็ตาม