รอยเตอร์ - ร่างไร้วิญญาณของนักศึกษากายภาพบำบัดวัย 23 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อรุมโทรมบนรถเมล์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ถูกส่งกลับถึงอินเดียแล้วเมื่อเช้าวันนี้(30) หลังแพทย์สิงคโปร์ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ ขณะที่รัฐบาลอินเดียก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีมาตรการปกป้องผู้หญิงอินเดียจากภัยสังคม เพื่อมิให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
นักศึกษาหญิงซึ่งมีอาการบอบช้ำภายในอย่างหนักเสียชีวิตลงเมื่อเช้ามืดวานนี้(29) หลังถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เมาท์ เอลิซาเบธ ในสิงคโปร์ได้เพียง 2 วัน
สื่ออินเดียรายงานว่า นักศึกษาเคราะห์ร้ายและเพื่อนชายของเธอกำลังเดินทางกลับจากดูภาพยนตร์ ก่อนจะถูกกลุ่มชายเมาสุรา 6 คนที่ขึ้นมาบนรถเมล์รุมทุบตีด้วยท่อนเหล็กและผลัดกันข่มขืนเธอ จากนั้นจึงโยนร่างทั้งสองคนลงจากรถเมล์ที่กำลังแล่นด้วยความเร็ว
เพื่อนชายของเธอโชคดีที่ยังรอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่คนร้ายทั้ง 6 คนถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมหลังจากหญิงสาวเสียชีวิตลง
โซเนีย คานธี ประธานพรรคคองเกรสซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน และนายกรัฐมนตรี มานโมฮัน ซิงข์ เดินทางมารอรับศพนักศึกษาหญิงที่สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่ครอบครัวผู้ตายซึ่งเดินทางไปเฝ้าไข้ถึงสิงคโปร์จะนำศพขึ้นรถพยาบาลเพื่อกลับมายังบ้านที่กรุงนิวเดลี โดยมีรถตำรวจนำขบวน
สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า ร่างของเธอถูกส่งไปยังฌาปนสถาน และผ่านการฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ว
แม้ทางการอินเดียจะห้ามสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว ทว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เห็นสมาชิกในครอบครัวของนักศึกษา, เชย์ลา ดิกชิต มุขมนตรีแห่งกรุงนิวเดลี และ อาร์ พี เอ็น ซิงข์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินออกมาจากฌาปนสถาน
เหตุข่มขืนและทำร้ายนักศึกษาหญิงอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ได้จุดชนวนการประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งรัฐบาลอินเดียเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน ขณะที่นายกรัฐมนตรี มานโมฮัน ซิงข์ ก็เพิ่งมีถ้อยแถลงกับประชาชนหลังเหตุการณ์ผ่านไปถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งยิ่งทำให้สังคมรู้สึกโกรธแค้นมากขึ้น
ปัญหาการข่มขืนสตรี หรือการเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากระบบสินสอด (dowry) ที่ฝ่ายหญิงจะต้องหาไปมอบแก่ครอบครัวเจ้าบ่าว แทบไม่เคยเป็นประเด็นการเมืองในอินเดีย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า หลังการจากไปของนักศึกษาหญิงสภาพการณ์ที่เป็นอยู่นี้อาจเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ แต่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่า กระแสเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของสตรีจะยังมีอิทธิพลต่อเนื่องไปจนถึงฤดูเลือกตั้งในปี 2014 หรือไม่