เอเอฟพี - ผู้นำอินเดียออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ หลังข่าวการเสียชีวิตของนักศึกษาสาวที่ตกเป็นเหยื่อรุมโทรมบนรถเมล์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนรัฐบาลเกรงว่าจะจุดชนวนการประท้วงรุนแรงตามมาอีก
ตำรวจอินเดียนำลวดหนามมาปิดกั้นพื้นที่บริเวณใจกลางกรุงนิวเดลีทันทีที่มีข่าวว่านักศึกษากายภาพบำบัดวัย 23 ปีได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้(29) หลังแพทย์พยายามยื้อชีวิตเธออยู่นานถึง 2 วัน
นายกรัฐมนตรี มานโมฮัน ซิงข์ เป็นผู้นำกล่าวไว้อาลัยหญิงสาวซึ่งได้รับยกย่องเป็น “บุตรีแห่งอินเดีย” พร้อมยืนยันว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของชาวอินเดียที่เดินขบวนประท้วงเหตุข่มขืนและทำร้ายนักศึกษาหญิงบนรถเมล์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา
ศพของหญิงสาวจะถูกส่งขึ้นเครื่องบินกลับอินเดียภายในวันนี้(29) พร้อมกับญาติพี่น้องซึ่งอยู่เคียงข้างเธอจนกระทั่งแพทย์ประกาศการเสียชีวิตเมื่อเวลา 4.45 น. ( 3.45 น. ตามเวลาในไทย)
เคลวิน โลห์ ผู้บริหารโรงพยาบาล เมาท์ เอลิซาเบธ ในสิงคโปร์ แถลงว่า “การทำงานของอวัยวะภายในของเธอล้มเหลว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและสมองอย่างรุนแรง”
“เธอกล้าหาญอย่างยิ่งที่ต่อสู้มาได้นานขนาดนี้ แต่อาการบาดเจ็บทางร่างกายมันรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะสู้ไหว”
นักศึกษาสาวผู้นี้ถูกกลุ่มชายเมาสุรา 6 คนรุมข่มขืนบนรถเมล์ และใช้ท่อนเหล็กทุบตีตามร่างกาย ก่อนจะโยนร่างของเธอและเพื่อนชายลงจากรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว
การรุมโทรมผู้หญิงเกิดขึ้นเป็นประจำในอินเดีย ซึ่งหลายครั้งผู้ตกเป็นเหยื่อก็ไม่กล้าแจ้งความ เพราะขาดความศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า และเกรงปฏิกิริยาตอบสนองที่จะได้รับจากตำรวจซึ่งก็เป็นเพศชาย
อย่างไรก็ตาม การข่มขืนและทำร้ายนักศึกษาหญิงบนรถเมล์ครั้งนี้รุนแรงและป่าเถื่อนจนทำให้ความโกรธแค้นในสังคมอินเดียถึงจุดปะทุ ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาให้สัญญาว่าจะเพิ่มมาตรการปกป้องสตรี และตั้งระวางโทษหนักสำหรับผู้ที่ก่ออาชญากรรมทางเพศ
นีราช กุมาร ผู้บัญชาการตำรวจกรุงนิวเดลี วิงวอนให้ประชาชนอยู่ในความสงบ พร้อมประกาศให้พื้นที่บริเวณประตูอินเดียซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการประท้วงเป็นเขตห้ามชุมนุมด้วย
สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงนิวเดลี 10 สถานีถูกสั่งปิดบริการชั่วคราว ขณะที่ตำรวจนำเครื่องกีดขวางจำนวนมากมาปิดกั้นถนนที่มุ่งสู่สถานที่ราชการ
รัฐบาลอินเดียออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า นักศึกษาหญิงผู้นี้ถูกส่งตัวไปรักษาที่สิงคโปร์เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้เธอเสียชีวิตบนแผ่นดินอินเดีย ซึ่งจะยิ่งทำให้กระแสประท้วงรุนแรงขึ้น
ที.ซี.เอ. ราฆาวัน ข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำสิงคโปร์ ยืนยันว่า การตัดสินใจส่งนักศึกษาเคราะห์ร้ายไปรักษาตัวที่นั่นมีเหตุผลทางการแพทย์เป็นหลัก หลังจากทีมแพทย์ในกรุงนิวเดลีได้ปรึกษาหารือกับแพทย์ผ่าตัดในสิงคโปร์แล้ว
ระหว่างงานแถลงข่าว ราฆาวัน ยังเอ่ยชื่นชมความอดทนอดกลั้นของครอบครัวนักศึกษาหญิง ซึ่งเป็นชาวรัฐอุตตรประเทศ
“พวกเขาทนรับความสูญเสียครั้งนี้อย่างกล้าหาญ, ทรหดอดทน และเข้าใจ... พวกเขายังขอร้องผมหลายครั้งให้บอกทุกคนด้วยว่า รู้สึกซาบซึ้งกับถ้อยคำให้กำลังใจ และคำแสดงความเสียใจทั้งหมดที่พวกเขาได้รับมา ซึ่งทำให้พวกเขายิ่งเชื่อมั่นว่า การจากไปของลูกสาวจะนำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับผู้หญิงทุกคนในอินเดีย”